IIG แตกไลน์ธุรกิจใหม่ “iiG Data” คาด 3 ปีสร้างรายได้โตกว่า 20%
IIG แตกไลน์ธุรกิจใหม่ “iiG Data” คาด 3 ปีสร้างรายได้โตกว่า 20%
บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG แตกไลน์ธุรกิจใหม่ iiG Data ช่วยตอบโจทย์ความท้าทายด้านกลยุทธ์ Big Data และ Data Activation อย่างครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลและเติบโตได้อย่างแท้จริง คาดธุรกิจใหม่สร้างรายได้เติบโตมากกว่า 20% ภายใน 3 ปี
นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IIG เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของการพัฒนาหน่วยธุรกิจใหม่ iiG Data นั้น เริ่มต้นจากแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ iiG ที่ยึดความสำเร็จของลูกค้าเป็นที่ตั้ง การเติบโตของบริษัทฯสอดคล้องไปกับการเติบโตของลูกค้า และด้วยแนวคิดนี้ ทำให้บริษัทฯทุ่มเทกับการแก้ปัญหาให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเห็นถึงความต้องการต่างๆ ของลูกค้าที่ยังไม่มีบริการที่มารองรับ พร้อมรุกพัฒนาการให้บริการและมองหาซอฟต์แวร์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า
ทั้งนี้ IIG คาดว่า iiG Data จะช่วยรองรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัทฯ โดยตั้งเป้าในธุรกิจใหม่นี้จะสร้างรายได้ให้กับริษัทฯ ไม่ต่ำกว่า 20% ภายใน 3 ปี โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าในการให้บริการธุรกิจ Data Analytics เพื่อเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการบริหารข้อมูล จำนวนมากกว่า 10 ราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป ทั้งในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มพลังงาน กลุ่มประกัน และกลุ่มค้าปลีก ซึ่งมีมูลค่าต่อรายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
โดยการให้บริการใหม่ของบริษัทในครั้งนี้จะเข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อมูลของลูกค้าและองค์กรที่จะสามารถสร้างความได้เปรียนในการดำเนินกิจการ ในขณะเดียวกันยังช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันจะช่วยให้ลูกค้ามีการจัดการด้านข้อมูลที่ตอบโจทย์ให้กับธุรกิจได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“เบื้อต้นต้องมีโครงการที่เริ่มทำเป็นโครงการตัวอย่างให้บริษัทต่างๆที่สนใจได้เห็นก่อนว่าเราสามารถทำข้อมูลต่างๆให้ออกมาเป็นข้อมูลที่สามารถใช้ได้จริง และเชื่อว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของเราหากมีความเข้าใจ และเห็นผลงานแล้ว ซึ่งหลักแล้วที่เข้ามาสนใจในตัวเรามักจะมีเป็นผู้ประกอบการที่เป็นรูปแบบของ B2C ที่มีข้อมูลจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร และประกัน ที่ให้ความสนใจเข้ามาค่อนข้างมาก และโครงการนี้ไม่ได้อยู่ในแบบแสดงรายการข้อมูลก็จะเห็นการเติบโตที่มากขึ้น”นายสมชาย กล่าว
ด้าน นายณัฐเชษฐ์ เทพูปถัมภ์ ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชัน IIG กล่าวว่า ทุกวันนี้หลายองค์กรล้วนขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล และจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือช่วยในการจัดการข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อมูลลูกค้าและขององค์กรเอง เพื่อที่จะสามารถสร้างความได้เปรียบเชิงธุรกิจ และตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของลูกค้าได้
ขณะเดียวกันบริษัทพบว่าหลายๆ โครงการของลูกค้ามีการจัดการด้านข้อมูลที่ยังไม่ตอบโจทย์ธุรกิจที่ชัดเจน จึงเป็นที่มาของการจัดตั้ง iiG Data หน่วยธุรกิจใหม่ภายใต้ iiG ที่ให้บริการที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการบริหารข้อมูล โดยมีกรอบแนวคิดที่เริ่มจากการเข้าใจโจทย์ทางด้านธุรกิจของผู้บริหารองค์กรก่อน จากนั้นจึงจะนำเสนอโซลูชันทางด้านการจัดการข้อมูลแบบ Full Stack ที่เน้นการนำเอาเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลสมัยใหม่ อาทิ AI, Big Data Analytics, หรือ Data Visualization เป็นต้น มาใช้เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการลงทุนด้าน Big Data จะได้ผลตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอน
โดยซอฟต์แวร์ที่ iiG นำให้มาบริการภายใต้หน่วยธุรกิจ iiG Data มีทั้งซอฟต์แวร์ที่ iiG ได้ลงทุนและพัฒนาขึ้นเอง คือ iMatch ที่ใช้ในการทำ Data Cleansing and Consolidation รวมไปถึงซอฟต์แวร์ระดับโลก อาทิ MuleSoft และ Tableau จาก Salesforce และซอฟแวร์อื่นๆ เช่น KNIME, DataRobot, Python, CLOUDERA
ส่วน นายวริสร์ โอวัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำภูมิภาค บริษัท Salesforce.com Singapore Pte Ltd. กล่าวว่า ซอฟต์แวร์ MuleSoft และ Tableau ของ Salesforce ที่ iiG ได้นำมาให้บริการลูกค้าในครั้งนี้ เป็นซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยตอนนี้ถือได้ว่า iiG ได้เป็นพาร์ทเนอร์ของ Salesforce ที่สามารถให้บริการผลิตภัณฑ์ของ Salesforce แก่ลูกค้าในประเทศไทยได้ครบทุกถ้วนทุกรายการ
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ iiG ได้รับรางวัลจาก APAC Partner of the Year 2020 จาก Salesforce ซึ่ง iiG เป็นบริษัทไทยบริษัทแรกที่ได้รับรางวัลนี้ เนื่องจากมีความเข้าใจเรื่องระบบและความต้องการของลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน Salesforce และสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับธุรกิจได้
สำหรับ iiG ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี ดิจิทัลครบวงจรแก่ภาคธุรกิจ โดยบริการของ IIG แบ่งเป็น 5 ประเภท คือ 1.ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์จากทาง Salesforce, 2.ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และเป็นตัวแทนจำหน่ายระบบซอฟต์แวร์จากทาง Oracle
รวมทั้ง 3.ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ (Brand Strategy) การสร้างและบริหารประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management) และการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing), 4. ธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากรในส่วนงานสารสนเทศ (Placement Service) และ 5. ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ (Data Analytics & Management)