PTT ควักเงิน 700 ลบ. ลงทุนบ.ย่อย GPSC 50% ขยายลงทุนรฟฟ.ในตปท.
PTT ควักเงิน 700 ลบ. ลงทุนบ.ย่อย GPSC 50% ขยายลงทุนรฟฟ.ในตปท.
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการ PTT ครั้งที่ 11/2563 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ได้อนุมัติการลงทุนในบริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ จำกัด (GRP) (บริษัทย่อย GPSC) และการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในรูปแบบเงินกู้ยืมแก่ GRP โดยอนุมัติให้บริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเมนท์ จำกัด (PTTGM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ
โดยปตท.เข้าซื้อหุ้นสามัญของ GRPเป็นจำนวน 4,655,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่าการซื้อหุ้นทั้งสิ้นประมาณ 693 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการซื้อหุ้นดังกล่าว ทำให้ ปตท. ถือหุ้นใน GRP ในสัดส่วน 50% ของทุนจดทะเบียนผ่าน PTTGM และ GPSC ถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของทุนจดทะเบียน ภายหลังจากการเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้นเสร็จสิ้น GRP จะคงสถานะเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเข้าซื้อหุ้น GRP เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการลงทุนประเภทธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar energy) และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม (Wind energy)
ทั้งนี้การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่ม ปตท. ในการเป็นผู้นาในด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาด ทาให้กลุ่ม ปตท. สามารถขยายธุรกิจ การลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งเพื่อให้กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 8,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573
โดยการพิจารณาการดำเนินธุรกิจของ GRP จะอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ GRP ซึ่งแต่งตั้งขึ้นจากตัวแทนร่วมกันของ ปตท. และ GPSC โดยจะปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของ GRP เป็นสำคัญ ทั้งนี้การเข้าร่วมลงทุนระหว่าง ปตท. และ GPSC ใน GRP นั้นไม่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจของ GPSC ในฐานะบริษัทแกนนำธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภค (Power Flagship) ของกลุ่ม ปตท. แต่อย่างใด
ปัจจุบัน GRP มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 9 โครงการใน 4 จังหวัด (ลพบุรี สุพรรณบุรี พิจิตร และ ขอนแก่น) มีกาลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 39.5 เมกะวัตต์ ทุกโครงการดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2557 – 2558
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ ปตท. ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ GRP ในรูปแบบเงินกู้ยืมผ่านบริษัท ปตท. ศูนย์บริหารเงิน จำกัด (PTT TCC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท. ตามสัดส่วนการถือหุ้น ภายหลังจากที่ ปตท. เข้าถือหุ้นใน GRP ในสัดส่วน 50% ผ่าน PTTGM แล้ว โดยมีวงเงินกู้ยืมตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 834 ล้านบาท
ด้าน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แจ้งว่า ภายใต้ข้อกำหนดในสัญญาซื้อขายหุ้น การซื้อขายหุ้น GRP จะเสร็จสิ้นได้จะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของเงื่อนไขบังคับก่อนบางประการ เช่น การที่หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันการรับแจ้งเพื่อทราบ เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าเงื่อนไขบังคับก่อนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ซึ่งภายหลังจากการเข้าทำธุรกรรมจำหน่ายหุ้นเสร็จสิ้น GRP จะไม่ได้มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
ทั้งนี้ การที่ ปตท. เข้าร่วมลงทุนใน GRP จะช่วยสนับสนุนความสามารถของบริษัทฯ ในการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และเพิ่มความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ในฐานะแกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. (PTT Groups Power Flagship) ในการพัฒนาลงทุนและดำเนินการด้านธุรกิจไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจัดตั้ง บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 100 โดยบริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเมนท์ จากัด (PTTGM) (บริษัทย่อยของ ปตท.) ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรกไม่เกิน 300 ล้านบาทและอนุมัติเพิ่มทุนเป็นประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนของ ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ปตท. ในธุรกิจใหม่ตามกลยุทธ์ New S-Curve:Life Science อาทิ ธุรกิจยา ธุรกิจ Nutrition ธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพความสามารถของ ปตท. ในด้าน Life science และเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ