หยุดแล้ว! TASCO เลิกซื้อน้ำมันดิบเวเนซูเอลาตามคำขู่สหรัฐ-จับตากำไรวูบหนัก

บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO แจ้งว่า บริษัทได้ยุติการจัดซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลา ภายในช่วงระยะเวลา wind down ตามข้อร้องขอจาก  US State Department เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยก่อนหน้านี้ US State Depaartment ร้องขอให้บริษัทหยุดซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลา โดยมีผลตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย.63 เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกคว่ำบาตรจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างรุนแรง ซึ่งการหยุดซื้อน้ำมันดิบดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องทำการปิดโรงกลั่นในเมือง Kemaman เป็นการชั่วคราวจนกว่าการคว่ำบาตรของสหรัฐฯอเมริกาต่อประเทศเวเนซูเอลานั้นถูกยกเลิก หรือบริษัทสามารถจัดหาน้ำมันดิบทดแทนน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลาได้

สำหรับโรงกลั่นของบริษัทในเมือง Kemaman ประเทศมาเลเซีย ถูกออกแบบมาเพื่อการกลั่นน้ำมันดิบชนิดหนักจากประเทศเวเนซุเอลาเป็นหลัก นับตั้งแต่โรงกลั่นเริ่มดำเนินการช่วงปี 2550 โรงกลั่นบริษัทมีการใช้น้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลา สำหรับการกลั่นคิดเป็น 90% โดยประมาณของน้ำมันดิบที่ใช้ทั้งหมด

โดยผลิตภัณฑ์ยางมะตอยที่ผลิตได้จากโรงกลั่นในเมือง Kemaman คิดเป็นสัดส่วน 50% โดยประมาณของผลิตภัณฑ์ยางมะตอยทั้งหมดของบริษัทที่ขายแต่ละปี การปิดโรงกลั่นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ wholesale trading โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนการบริหารความเสี่ยงอยู่หลายแผนงาน โดยบริษัทจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ทราบต่อไป

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุก่อนหน้านี้ว่า TASCO ประกาศปิดโรงกลั่นของบริษัทที่มาเลเซีย ซึ่งมีกำลังผลิต 30,000 ตันต่อวัน เพื่อเลี่ยงการถูกคว่ำบาตรจากประเทศสหรัฐฯ เพราะโรงกลั่นนี้ซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลาเป็นหลักกว่า 90% ซึ่งผลกระทบในปี 2563 จำกัด ราว 1-2% เพราะบริษัทมีน้ำมันพอใช้ถึง ต.ค.-พ.ย. แต่ปี 2564 คาดว่าจะกระทบยอดขายราว 50-60% และกระทบกำไร 20-30% หรือประมาณ 0.44-0.63 บาทต่อหุ้น

ด้านราคาหุ้น TASCO ปิดวันนี้(23พ.ย.63) อยู่ที่ระดับ  19.90 บาท บวก 0.30 บาท  หรือ 1.53% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.11 พันล้านบาท