“สรท.” หนุน “คลัง” ต่ออายุ “คนละครึ่ง”-วอน “ธปท.” ดูแลบาทแข็ง ห่วงปีหน้าผู้ส่งออกอ่วม

น.ส.กัณญาภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า วันนี้ (24 พ.ย.63) ได้เข้าพบกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) เพื่อขอให้กระทรวงการคลังออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่ง” เนื่องจากเห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงประเด็นเรื่องการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่ง รมว.คลัง แสดงความเข้าใจถึงปัญหาและผลกระทบที่มีต่อภาคการส่งออกของไทยในขณะนี้ แต่เห็นว่าเรื่องนี้อยู่ในหน้าที่และความดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่ง สรท.จะได้เข้าหารือกับผู้ว่าฯ ธปท.ด้วย

อย่างไรก็ดี สรท. ยังได้ขอให้กระทรวงการคลังเข้ามาช่วยปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของภาคเอกชนให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบริการเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจสำหรับการนำเข้าส่งออก ซึ่งปัจจุบันการเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนนี้ยังทำได้ไม่ดีพอ รวมถึงการปรับโครงสร้างภาษี การอำนวยความสะดวกในการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล ตลอดจนระเบียบพิธีการทางศุลกากรต่างๆ ที่ยังเป็นอุปสรรคอยู่ในขณะนี้

ประธาน สรท. มองว่า ค่าเงินบาทที่เหมาะสมในขณะนี้ควรจะอยู่ที่ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 30.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ในปี 64 มีการคาดการณ์ว่าเงินบาทมีแนวโน้มจะแข็งค่ามากขึ้นอีก และแข็งค่ามากกว่าประเทศคู่ค้า โดยคาดว่าเงินบาทไปอยู่ที่ระดับ 29.00-29.50 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่แข็งค่ามากสำหรับผู้ส่งออก ดังนั้นจึงต้องการให้ ธปท.ช่วยดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมมากขึ้น