สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 พ.ย. 2563

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานที่สูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐต่างๆของสหรัฐนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,872.47 จุด ลดลง 173.77 จุด หรือ -0.58% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,629.65 จุด ลดลง 5.76 จุด หรือ -0.16% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,094.40 จุด เพิ่มขึ้น 57.61 จุด หรือ +0.48%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร ขณะที่ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ในยุโรป และจากความหวังว่าจะมีวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ออกมาให้ใช้ในเร็วๆ นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.08% ปิดที่ 392.09 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,289.80 จุด ลดลง 2.64 จุด หรือ -0.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,391.09 จุด ลดลง 41.08 จุด หรือ -0.64% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,571.29 จุด เพิ่มขึ้น 12.87 จุด หรือ +0.23%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกลับไปวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง หลังจากตลาดได้แรงหนุนก่อนหน้านี้จากข่าวความคืบหน้าด้านประสิทธิภาพของวัคซีน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,391.09 จุด ลดลง 41.08 จุด หรือ -0.64%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) โดยทั้งสัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือนเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนขานรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 45.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2563

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 48.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2563

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่สูงเกินคาด ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,805.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.2 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 23.362 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.5 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 969.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 2,364.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงในเดือนพ.ย.

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% แตะที่ 91.9985 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.42 เยน จากระดับ 104.56 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9086 ฟรังก์ จากระดับ 0.9119 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2999 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3004 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1915 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1883 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3381 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3352 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7364 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7354 ดอลลาร์สหรัฐ