ตร. ไล่เช็กบิลม็อบราษฎรชุมนุมหน้าราบ 11 ทำลายทรัพย์สินราชการ-ผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ
ตร. ไล่เช็กบิลม็อบราษฎรชุมนุมหน้าราบ 11 ทำลายทรัพย์สินราชการ-ผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (รอ.) เมื่อวานนี้ (29 พ.ย.63) ว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ เนื่องจากไม่มีการแจ้งเจ้าพนักงานล่วงหน้า เมื่อผู้กำกับการ สน.บางเขน ได้แจ้งแนวปฏิบัติและแจ้งให้ยุติการชุมนุมในเวลา 18.00 น.แล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ปฏิบัติตาม
โดยภายหลังการชุมนุมยุติแล้วได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย ได้แก่ รถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ถูกทุบกระจก พ่นสี และปล่อยลมยาง, รั้วสวนหย่อมของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ถูกทำลาย, ผู้ชุมนุมบางส่วนนำสีมาราดบนพื้นบริเวณด้านหน้าทางเข้ากรมทหารราบที่ 11 รอ.จนได้รับความเสียหาย สกปรกเลอะเทอะ ซึ่งตำรวจได้ประสานหน่วยงานเจ้าของพื้นที่แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีไว้แล้ว
“เป็นการชุมนุมผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ส่วนการทุบทำลายสิ่งของที่เป็นทรัพย์สินของทางราชการก็จะเป็นความผิดอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้การพูดปราศรัยหากเป็นความผิดหนึ่งความผิดใด พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
นอกจากนั้น ระหว่างการชุมนุมเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ที่รักษาการในบริเวณดังกล่าวได้จับกุมตัวผู้ชุมนุมชายรายหนึ่งที่กระทำการเจาะทำลายยางรถ และทุบกระจกรถตู้ สน.สายไหม จึงได้ดำเนินการสอบสวนในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเจ้าตัวได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อหา และตำรวจได้ส่งตัวไปดำเนินคดีแล้ว
ทั้งนี้ จากจุดเริ่มต้นมาถึงปัจจุบันนี้ตำรวจได้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมเฉพาะใน กทม.ทั้งหมด 110 คดี ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการไปแล้ว 21 คดี ซึ่งส่วนใหญ่พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง และอยู่ระหว่างรอส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ 4 คดี คงเหลือที่อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 85 คดี
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช. กล่าวว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดรายอื่นๆ ต่อไป ซึ่งขณะนี้มีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมรวมทั่วประเทศรวม 170 คดี
ส่วนการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเดินทางไปให้กำลังใจผู้ถูกออกหมายเรียกของ สน.ชนะสงคราม และ สน.ลุมพินี ในช่วงบ่ายวันนี้ (30 พ.ย.) ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่มีการแจ้งเจ้าพนักงานในพื้นที่ที่รับผิดชอบตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และหากมีการชุมนุมแล้วก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่แจ้งเจ้าพนักงานแล้วจะละเมิดกฎหมายอื่นๆ ได้
สำหรับการจัดกำลังตำรวจดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมตามความเหมาะสมและความจำเป็นเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมประสานแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง