สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 พ.ย. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 พ.ย. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความอ่อนแอของข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาตลอดเดือนพ.ย.พบว่า ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติรายเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,638.64 จุด ลดลง 271.73 จุด หรือ -0.91% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,621.63 จุด ลดลง 16.72 จุด หรือ -0.46% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,198.74 จุด ลดลง 7.11 จุด หรือ -0.06%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) หลังจากการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) แต่ตลาดปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ย.มากที่สุดเป็นประวัติการณ์โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 และความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.98% ปิดที่ 389.36 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,518.55 จุด ลดลง 79.63 จุด หรือ -1.42%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,291.16 จุด ลดลง 44.52 จุด หรือ -0.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,266.19 จุด ลดลง 101.39 จุด หรือ -1.59%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มน้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบลดลง แต่ตลาดปรับตัวขึ้นมากที่สุดในเดือนนี้ในรอบกว่า 30 ปีโดยได้แรงหนุนจากการพัฒนาวัคซีนซึ่งคาดว่าจะช่วยเร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,266.19 จุด ลดลง 101.39 จุด หรือ -1.59%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 45.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 47.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 7.2 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,780.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.6 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 22.593 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 965.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 33.80 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 2,405.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.08% แตะที่ 91.8760 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 104.33 เยน จากระดับ 104.03 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ
0.9065 ฟรังก์ จากระดับ 0.9045 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2962 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2984 ดอลลาร์สหรัฐ
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1947 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1957 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3343 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3304 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7352 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7388 ดอลลาร์