“ก.อุตฯ” ติวเข้ม Start Up พัฒนาโมเดลธุรกิจ เชื่อมแหล่งเงินทุน ต่อยอดเป้าหมายเชิงพาณิชย์
“กระทรวงอุตสาหกรรม” ติวเข้ม Start Up พัฒนาโมเดลธุรกิจ เชื่อมแหล่งเงินทุน ต่อยอดเป้าหมายเชิงพาณิชย์
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (รมว.อุตสาหกรรม) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนที่มีศักยภาพจำนวนมากให้ความสนใจร่วมลงทุนในธุรกิจกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจเบื้องต้น หรือ สตาร์ทอัพ (Startup) ซึ่งถือเป็นน้องใหม่ในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจด้านเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ Deep Technology
ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ดำเนินโครงการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนและการตลาดสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ โครงการสตาร์ทอัพคอนเน็ค (Startup Connect) โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษ หรือ ทีมกูรูดีพร้อม (DIProm Guru) ให้คำปรึกษาตลอดการวางแผนธุรกิจอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งมีความพร้อมที่จะเข้าสู่เชิงพาณิชย์
“กระทรวงอุตสาหกรรมจำเป็นต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นสตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและมีโอกาสทางธุรกิจขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ได้จริง” นายสุริยะ กล่าว
ด้านนายณัฐพล รังสิตพล อธิบดี กสอ. กล่าวว่า กสอ.ขานรับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยช่วงที่ผ่านมาได้มีโครงการส่งเสริมสตาร์ทอัพมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการในปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชนที่ให้ความสนใจร่วมลงทุนสตาร์ทอัพในกลุ่ม Deep Technology ซึ่งถือได้ว่ามีโอกาสต่อยอดธุรกิจได้ในปัจจุบัน จึงได้จัดตั้งทีมกูรูดีพร้อม (DIProm Guru) เข้าไปบ่มเพาะและดำเนินการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ในระยะเริ่มต้น (Early Stage)
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่และต้นแบบเชิงนวัตกรรมในการนำไปทดสอบเชิงพาณิชย์ จากนั้นจึงจะดำเนินการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงธุรกิจร่วมลงทุนภาคเอกชน (Venture Capital: VC) เพื่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจที่มีประสิทธิภาพส่งผลดีต่อทั้งผู้ประกอบการและภาคเอกชนผู้ร่วมลงทุน ซึ่งโครงการนี้มีสตาร์ทอัพ 35 กิจการ ที่ผ่านการบ่มเพาะจาก กสอ. ให้ความสนใจและได้นำเสนอรายละเอียดทางธุรกิจให้กับ VC ในเครือข่าย กสอ. ซึ่งรวมถึง บริษัท อีซีจี-รีเซียร์ช จำกัด โดยมีสตาร์ทอัพได้รับคัดเลือกให้นำเสนอไอเดียหรือธุรกิจในรอบสุดท้าย จำนวน 6 กิจการ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากบริษัทฯ คิดเป็นมูลค่า 350 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน กสอ.ได้ส่งเสริมผู้ประกอบสตาร์ทอัพมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ สตาร์ทอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังมีเครือข่ายภาคเอกชนที่พร้อมสนับสนุนเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการในการต่อยอดสู่เป้าหมายในเชิงพาณิชย์ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจในภาวะการณ์ต่างๆ