UPA สยายปีกรุกอสังหาฯ “กัมพูชา” ควักเงิน 450 ลบ.ซื้อหุ้น “One Central Tower” 34%

UPA สยายปีกรุกอสังหาฯ “กัมพูชา” ควักเงิน 450 ลบ.ซื้อหุ้น “One Central Tower” 34%


นายกวิน เฉลิมโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัท One Central Tower Company Limited (“One Central Tower”) ซึ่งเป็น บริษัทจำกัดจดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 338,400 หุ้นคิดเป็นสัดส่วน 33.84 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในมูลค่ารวมทั้งสิ้น 450 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 108,000 เรียลกัมพูชาต่อหุ้น (หรือ ประมาณหุ้นละ 27 ดอลลาร์สหรัฐฯ) จากผู้ถือหุ้นเดิมของ One Central Tower คือ นาย Leak Yim ซึ่งบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม One Central Tower ถือครองที่ดิน ซึ่งตั้งอยู่ที่ National Road 1, Niroth Commune, Chbar Ompov, Phnom Penh ราชอาณาจักรกัมพูชา โฉนดที่ดินเลขที่ 12100404-0070, Koh Norea Nirouth, Chbar Ampov, Phnom Penh พื้นที่รวม 24,179 ตารางเมตร ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ อาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากย่านธุรกิจใจกลางกรุงพนมเปญเพียง 2.5 กิโลเมตร และอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ Bassac ซึ่งจัดเป็นเขตพัฒนาใหม่ในกรุงพนมเปญ

สำหรับการลงทุนใน One Central Tower ถือเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเปิดตลาดใหม่ในประเทศกัมพูชา บนทำเลที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตทางธุรกิจ และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นการเปิดโอกาสการลงทุนในโครงการอื่น ๆเพิ่มเติม ทั้งโครงการด้านพลังงาน และสาธารณูปโภค โดยสอดคล้องกับเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัท  ปัจจุบันมีการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทย และกลุ่มประเทศ CLMV

“การประกาศการเข้าไปลงทุนพัฒนาอสังหาฯในครั้งนี้ จะเติมเต็มรายได้ประจำ เป็นการเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ ผลกำไรในอนาคตให้กับ UPA  อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญในการเปิดโอกาสในการขยายการลงทุนในประเทศใหม่ๆ  รวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV ตามแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะอยู่ในช่วงขาขึ้นจากความต้องการของประชากรในประเทศ และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักอาศัย รวมทั้งความต้องการลงทุนด้านสาธารณูปโภคและพัฒนาเมือง จึงไม่แปลกที่จะเป็นโอกาสที่ผู้พัฒนาของคนไทย จะเข้าไปจับตลาดหรือพัฒนาโครงการอสังหาฯ  รวมถึงบริษัทด้วยเช่นกัน” นายกวิน กล่าว

Back to top button