ดีเดย์ 7 ธ.ค.! “สธ.” ห้ามโฆษณาขายเหล้า-เบียร์ออนไลน์ ยันรายใหญ่-รายย่อย มาตรฐานเดียวกัน
ดีเดย์ 7 ธ.ค.นี้! "สธ." บังคับใช้ กม. ห้ามโฆษณาขายเหล้า-เบียร์ ผ่านสื่อออนไลน์ ยืนยัน รายใหญ่-รายย่อย ใช้มาตรฐานเดียวกัน
นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวล ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 เพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า และผู้ที่เกี่ยวข้อง รับทราบเจตนารมณ์ของกฎหมาย พร้อมทั้งให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตาม เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย
ประกาศฯ ฉบับนี้มีใจความสำคัญหลัก คือ
1.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการขายหรือวิธีการที่เกี่ยวข้องด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อผู้บริโภคโดยตรง หรือดำเนินการลักษณะชวนให้ซื้อ เสนอขายหรือการขายสินค้าหรือบริการต่อผู้บริโภคโดยตรง ในลักษณะของการสื่อสารผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
2.ประกาศนี้ไม่บังคับใช้ในกรณีซื้อขายและชำระราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่ที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ธ.ค.63 นี้
นพ.นิพนธ์ กล่าวว่า เจตนารมย์ของประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563 ที่จะเริ่มบังคับใช้ วันที่ 7 ธ.ค.63 มุ่งเน้นควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เนื่องจากศูนย์วิจัยปัญหาสุราพบข้อมูลมีอัตราการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านออนไลน์มากขึ้น โดยมีผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย ที่มีการเปิดเพจเฟซบุ๊กหลายเพจ เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และพบว่าบางเว็บเพจที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผิดกฎหมายด้วย
และย้ำว่าการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ทั้งบริษัทเล็กและบริษัทใหญ่ ไม่ได้ต้องการปิดกั้นช่องทางการโฆษณาของบริษัทจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายเล็กแต่อย่างใด พร้อมยืนยันกฎหมายฉบับนี้มุ่งเน้นไปที่วิธีการจำหน่ายลักษณะเชิญชวนให้ซื้อ หรือเสนอขายแก่ผู้บริโภคโดยตรงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ก ไลน์ เพื่อประโยชน์ทางการค้า ซึ่งไม่รวมถึงการซื้อขายโดยตรงที่ร้านจำหน่าย หรือการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่กฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ในวันที่ 7 ธ.ค. หากมีการละเมิดกฎหมาย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกเหนือจากกฎหมายฉบับใหม่ที่จะบังคับใช้แล้ว กฎหมายฉบับเดิมที่เกี่ยวข้องก็ยังมีผลอยู่ เช่น หากเป็นการเชิญชวนให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการจำหน่ายสุราหลีกเลี่ยงภาษี ก็จะมีโทษปรับตามปริมาณของน้ำสุรา ส่วนการขายให้กับเด็กและเยาวชน อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วย