ครม. เคาะแล้ว “คนละครึ่ง” เฟส 2! เพิ่มวงเงินเป็น 3,500 บาท เริ่มลงทะเบียน 16 ธ.ค.นี้

ครม. เคาะแล้ว “คนละครึ่ง” เฟส 2! เพิ่มวงเงินเป็น 3,500 บาท เริ่มลงทะเบียน 16 ธ.ค.นี้


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (8 ธ.ค.63) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ตามที่ศูนย์บริการสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เห็นชอบ ผู้ได้รับสิทธิ 15 ล้านคน

ประกอบด้วย คนที่ได้สิทธิเฟสแรก 10 ล้านคน และผู้เข้าร่วมโครงการใหม่อีก 5 ล้านคน โดย 10 ล้านคน จะได้รับเงินเพิ่มอีก 500 บาท เป็น 3,500 บาท และสามารถใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 มี.ค.64 ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนใหม่ 5 ล้านคน คาดว่าจะเริ่มลงทะเบียนได้ 16 ธ.ค. เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 ได้

สำหรับโครงการคนละครึ่งทั้ง 2 เฟส คาดว่าจะมีส่วนช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มอีก 0.32% จากเม็ดเงินหนุนเวียนในระบบราว 105,000 ล้านบาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานรากให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงไตรมาสที่ 1/64 ผ่านการบริโภคจับจ่ายใช้สอยของประชาชน โดยภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป 50% แต่ไม่เกิน 150 บาท/คน/วัน เช่นเดียวกับโครงการคนละครึ่งในปัจจุบัน

โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 นี้ แบ่งกลุ่มผู้ใช้สิทธิเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย (1) ผู้ได้รับสิทธิเดิม ไม่เกิน 10 ล้านคน จะได้รับสิทธิวงเงินสนับสนุนจากรัฐเพิ่มเติมคนละ 500 บาท ในวันที่ 1 ม.ค.64 ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงินตามสิทธิที่มีอยู่เดิม 3,000 บาท เท่ากับจะมีวงเงินรวม 3,500 บาท สามารถใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 64 และ (2) ผู้ลงทะเบียนใหม่ไม่เกิน 5 ล้านคน จะได้รับสิทธิวงเงินสนับสนุนจากรัฐคนละ 3,500 บาท สำหรับใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.64

โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จะมีการเพิ่มปุ่มในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้ผู้ที่มีสิทธิในโครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิมกดยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 และสำหรับกลุ่มผู้ลงทะเบียนใหม่ 5 ล้านคน กระทรวงการคลังจะเปิดให้ลงทะเบียนด้วยวิธีการเดิม ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.563 เป็นต้นไป ในระหว่างเวลา 06.00 น.-23.00 น.ซึ่งผู้ลงทะเบียนต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่ใช่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

รมว.คลัง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่เคยถูกตัดสิทธิจากการไม่ได้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งระยะแรกตามระยะเวลามที่กำหนด สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ได้ใหม่ นอกจากนี้ ขอย้ำว่าผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งระยะแรกและระยะที่ 2 จะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืนได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่จำแนกกลุ่มเป้าหมายของโครงการและมาตรการต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจนไม่ให้ซ้ำซ้อนลักลั่นกัน

ล่าสุดของโครงการคนละครึ่ง ณ วันที่ 8 ธ.ค. 63 เวลา 12.00 น.มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 9.4 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,537,093 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 39,318 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 20,091 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 19,227 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 176 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา ชลบุรีนครศรีธรรมราช และเชียงใหม่ ตามลำดับ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ที่ประชุมครม. ยังได้เห็นชอบโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 รัฐบาลจะเพิ่มวงเงินช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนประมาณ 14 ล้านคน ให้เป็นค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) จำนวน 500 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลาเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค. 64 ถือเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการเดิมที่สิ้นสุดในเดือน ธ.ค.63 นอกจากจะช่วยรักษาระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ยังจะก่อให้เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่น ช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นวงจรเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญอีกด้วย

“โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จะเป็นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลที่มอบให้แก่ประชาชน เพื่อดูแลและเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งที่กระทรวงการคลังได้นำดำริของนายกรัฐมนตรีมาดำเนินการ ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มของการเจริญเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 64” นายอาคม กล่าว

Back to top button