“ศูนย์วิจัยกสิกรฯ” มองตลาดรถยนต์ในปท. ปี 64 ฟื้นโต 7-11% กลุ่ม xEV มาแรงก้าวกระโดด
“ศูนย์วิจัยกสิกรฯ” มองตลาดรถยนต์ในปท. ปี 64 ฟื้นโต 7-11% กลุ่ม xEV มาแรงก้าวกระโดด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2564 ทิศทางยอดขายมีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้ง เมื่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศเริ่มทยอยฟื้นตัวดีขึ้น จากที่เริ่มส่งสัญญาณการกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้นในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ โดยทั้งปี 2563 มีโอกาสแตะระดับ 770,000 คัน หรือหดตัว 23.6% จากปี 2562
ประกอบกับในปีหน้ามีแนวโน้มที่หลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทยจะมีโอกาสได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งจะกลายมาเป็นปัจจัยช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย เมื่อการท่องเที่ยว การลงทุน และการค้าขายระหว่างประเทศกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง แม้จะยังไม่กลับสู่ระดับปกติ
“ปัจจัยเหล่านี้ ผนวกกับการออกแคมเปญแข่งขันกันของค่ายรถ จึงมีผลโดยตรงต่อทิศทางยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564 ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ 7-11% คิดเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 825,000 – 855,000 คัน” บทวิเคราะห์ระบุ
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ดังกล่าว ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าภาครัฐไม่มีความจำเป็นต้องดึงมาตรการล็อกดาวน์มาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกครั้งในปีหน้า ซึ่งในปี 2564 คาดว่ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือรถยนต์กลุ่ม xEV ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ไฮบริด (HEV) รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) จะเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวได้อย่างก้าวกระโดด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มการเข้าสู่ยุคแห่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเช่นเดียวกับตลาดโลก แม้ว่าจะยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่ามาก เนื่องจากไทยยังนับเป็นตลาดเกิดใหม่ของกลุ่มรถยนต์ xEV แต่เมื่อพิจารณาจากสภาพตลาดรถยนต์กลุ่ม xEV ในประเทศที่แม้จะยังไม่มีมาตรการกระตุ้นตลาดอย่างชัดเจนจากทางภาครัฐเข้ามา จะมีก็เพียงแต่มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน แต่เมื่อเทียบกับรถยนต์ประเภทอื่นแล้ว ตลาดรถยนต์กลุ่ม xEV ในประเทศกลับเติบโตรุดหน้าสวนทางตลาด เนื่องจากผู้บริโภคหลักเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากนัก
“คาดว่าในปี 2564 ถ้าการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ยอดขายรถยนต์กลุ่มนี้ในไทยน่าจะยิ่งเร่งตัวขึ้น หลังการเข้ามาแข่งขันของค่ายรถที่ทวีความดุเดือดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรถยนต์หลายรุ่นกลุ่ม xEV เริ่มเข้ามารุกตลาดกลุ่มราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดตลาดสู่กลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ขึ้น” บทวิเคราะห์ระบุ
โดยคาดการณ์ยอดขายของรถยนต์แต่ละประเภทในปีหน้า มีรายละเอียดดังนี้
สำหรับรถยนต์กลุ่ม HEV และ PHEV ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปี 2564 นี้ ค่ายรถจะเริ่มดันให้รถยนต์รุ่น HEV และ PHEV กลายมาเป็นโมเดลมาตรฐานของแต่ละค่ายรถมากขึ้น ซึ่งจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนยอดขายรถยนต์ในกลุ่มนี้ปรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีประมาณ 48,000-50,000 คัน หรือขยายตัว 10-23% ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2563 ที่คาดว่าจะขยายตัว 17% คิดเป็นยอดขาย 31,000 คัน
สำหรับรถยนต์ BEV ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปี 2564 นี้ มีโอกาสเติบโตจากการเข้ามาบุกตลาดของรถยนต์ BEV สัญชาติจีนได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอและยังได้สิทธิ์ภาษีนำเข้า 0% ผ่านข้อตกลงการค้าเสรีไทย-จีน ทำให้สามารถนำเข้ามาจำหน่ายในช่วงแรกได้ด้วยระดับราคาไม่สูงนัก ก่อนจะผลิตเพื่อทำตลาดในประเทศในอนาคต ขณะที่ค่ายรถหรูยุโรปที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอก็จะเริ่มรุกตลาดรถยนต์ BEV ในปีนี้เช่นเดียวกัน ทำให้มีโอกาสจะขยายตัวได้สูง แต่ตัวเลขยอดขายอาจจะยังไม่สูงนักเนื่องจากยังเป็นตลาด niche โดยน่าจะมียอดขายประมาณ 4,000-5,000 คัน ขยายตัว 176-245% และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 102% คิดเป็นยอดขาย 1,450 คัน
“ปัจจัยสนับสนุนหลักของตลาด BEV ในอนาคต คือ การที่ภาครัฐและเอกชนจะสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดซึ่งมีกำลังซื้อพร้อม แต่ยังขาดความมั่นใจในเรื่องของการวางเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ทั่วถึง เมื่อเทคโนโลยีรถยนต์ BEV ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดในเรื่องระยะทางวิ่งอยู่” บทวิเคราะห์ระบุ
ส่วนรถยนต์ในกลุ่ม ICE ในปี 2564 ถ้าการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้และไม่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่ามีโอกาสที่จะขยายตัวได้ดีนอกจากจะเป็นเพราะฐานที่ต่ำในปี 2563 แล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะทยอยเกิดขึ้นตลอดช่วงปีหน้าก็คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ ICE เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ที่ขยายตัวตามเทรนด์ตลาดปัจจุบัน และรถปิกอัพที่คาดว่าจะเติบโตตามทิศทางการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ ICE รวมน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 773,000 – 800,000 คันได้ หรือขยายตัว 5-8% จากปีนี้ที่คาดว่าจะหดตัวอย่างรุนแรงถึง 24.8% คิดเป็นยอดขายเพียง 737,550 คัน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าปริมาณการผลิตรถยนต์กลุ่ม xEV ในประเทศปี 2564 น่าจะทำได้ 72,000 – 80,000 คัน ขยายตัว 60-78% จากที่คาดว่าจะผลิตประมาณ 45,000 คันในปี 2563 และปริมาณการผลิตรถยนต์รวมของประเทศน่าจะทำได้ 1,550,000 ถึง 1,620,000 คัน ขยายตัว 10-15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะผลิตได้ 1,410,000 คัน หดตัว -30% จากปีก่อน ในกรณีที่ไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจให้ชะลอลงกว่าที่คาด
สำหรับมาตรการกระตุ้นตลาด “รถเก่าแลกใหม่” ที่แม้ตอนนี้จะถูกดึงกลับไปพิจารณาถึงผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ อีกครั้งนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า หากมีการผลักดันนำเข้ามาใหม่ด้วยมาตรการที่ชัดเจนและเหมาะสม ก็คาดว่าจะน่าจะช่วยเร่งให้ตลาดรถยนต์กลุ่ม xEV เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ปัจจัยเร่งสำคัญที่ภาคส่วนต่างๆ ควรพิจารณาด้วย คือ การเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ หากมีเป้าหมายต้องการเร่งตลาด BEV และ PHEV ให้กลายเป็นรถรุ่นมาตรฐานดังเช่นหลายตลาดหลักของโลกในอนาคต