BANPU พุ่งแรง 10% นิวไฮรอบ 10 เดือน รับเดินเครื่อง COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น “ยาบูกิ” 7MW
BANPU พุ่งแรง 10% นิวไฮรอบ 10 เดือน รับเดินเครื่อง COD โซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น “ยาบูกิ” 7MW
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ณ เวลา 11.38 น. อยู่ที่ระดับ 10.00 บาท บวก 0.90 บาท หรือ 9.89% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.30 พันล้านบาท ราคาหุ้นวิ่งแรงในรอบ 10 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 10.00 บาท เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 63
โดยวันนี้(16 ธ.ค.63) บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยาบูกิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัท BRE Singapore Pte Ltd (BRES) บริษัทย่อยของ บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด (Banpu NEXT) (BANPU และ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)) หรือ BPP ถือหุ้นอยู่ใน Banpu NEXT ในสัดส่วนเท่ากันร้อย 50)ภายใต้โครงการลงทุนแบบทีเค ร้อยละ 75 ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วในวันที่ 16 ธันวาคม 2563
โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าว ตั้งอยู่ ณ จังหวัดฟูกูชิมะ มีกำลังการผลิตรวม 7 เมกะวัตต์ (MW) ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ บริษัท Tohoku Electric Power Co., Inc. เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยมีราคารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in-Tariff (FIT) 36 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โรงไฟฟ้าแห่งนี้สามารถผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ชุมชนราว 1,700 ครัวเรือน และได้รับการตั้งชื่อ เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Sawadee Yabuki Hatsudensho
ขณะนี้ Banpu Next มีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 17 โครงการ กำลังการผลิตตามสัดส่วนที่ลงทุนรวม 240 เมกะวัตต์ ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วตามสัดส่วนที่ลงทุน 87.89 เมกะวัตต์
บริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 โดยเน้นการลงทุนในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล
ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า FTSE Rebalance : FTSE ประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่แล้ว พบว่า STGT ถูกนำเข้า FTSE All World Index ในส่วนของ Mid Cap ส่วนหุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก ได้แก่ BH, SAWAD, TU คิดเป็นเม็ดเงิน 3.5, 1.3, 0.3 ล้านเหรียญ ตามลำดับ ขณะที่หุ้นที่ถูกลดน้ำหนัก ได้แก่ PTT, CPALL, SCC, AOT, SCB, BDMS, ADVANC, GULF, CPN, PTTEP, KBANK-F, BANPU คิดเป็นเม็ดเงินราว -1 ถึง -4 ล้านเหรียญ/บริษัท โดยทั้งหมดจะมีผลวันที่ 18 ธ.ค. 2020 นี้