ชุดใหญ่ไฟกระพริบ! “พาณิชย์” จับมือห้างร้านลดกระหน่ำข้ามปี กว่า 2 หมื่นรายการ สูงสุด 87%
“กระทรวงพาณิชย์” จับมือห้างร้านลดกระหน่ำราคาสินค้า-บริการทั่วประเทศกว่า 2 หมื่นรายการ สูงสุดถึง 87% ตั้งแต่ 16 ธ.ค.63-31 ม.ค.64 รวมทั้งสิ้น 45 วัน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงโครงการ “พาณิชย์ลดกระหน่ำ ข้ามปี! New Year Grand Sale 2021” ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับภาคเอกชน จัดกิจกรรมลดราคาสินค้าและบริการครั้งใหญ่ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพ และมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยจะเริ่มลดราคาตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.63-31 ม.ค.64 รวมทั้งสิ้น 45 วัน
“การลดราคาครั้งนี้ แตกต่างจากการลดราคาในโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ที่ได้ดำเนินการมาแล้ว 7 ล็อต โดยมีการลดราคาทั้งสินค้าและบริการ ลดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ จากเดิมแค่ออฟไลน์ มีเอกชนร่วมมากสุด ลดราคามากที่สุด ลดนานที่สุด มีสินค้าและบริการเข้าร่วมมากที่สุด และยังมีร้านธงฟ้า ซึ่งกระจายอยู่ในชนบททั่วทั้งประเทศเข้าร่วมถึง 2,159 แห่งด้วย” รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ระบุ
สำหรับรายละเอียดการปรับลดราคา มี 4 กลุ่ม คือ 1.หมวดสินค้า มีสินค้าเข้าร่วมกว่า 22,000 รายการ ใน 15 หมวดสินค้า เช่น อาหารและเครื่องดื่ม อาหารปรุงสำเร็จ ซอสปรุงรส ของใช้ในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย ผลิตภัณฑ์ซักล้าง อาหารเสริม เครื่องครัว เครื่องสำอาง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มาเข้าร่วมเป็นครั้งแรก และยังมียารักษาโรค เวชภัณฑ์ ยางรถยนตร์ อุปกรณ์งานช่าง วัสดุก่อสร้าง รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและหมวดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวม 15 หมวด ลดสูงสุดถึง 85%
2.หมวดบริการ มีสินค้าเข้าร่วมกว่า 500 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 87% ใน 4 หมวดบริการสำคัญ ได้แก่ 1.บริการทางการแพทย์ 2.ศูนย์บริการยานยนต์ 3.โรงแรมที่พัก และ 4.ร้านอาหาร ซึ่งมีสมาคมภัตตาคารเป็นหัวเรือใหญ่ร่วมกับร้านอาหารทั่วประเทศเข้าร่วม
3.หมวดแพลตฟอร์มสำคัญ 4 แพลตฟอร์ม ประกอบด้วย 1.ไปรษณีย์ไทย ซึ่งลดราคาสินค้าที่จำหน่ายบนแพลตฟอร์มไปรษณีย์ไทย หรือ thaipostmart.com ลดทั้งค่าสินค้าและค่าขนส่ง 2.grab food ลดทั้งราคาสินค้าและค่าขนส่ง โดยลดในส่วนของคูปองถึง 50% 3.ลาซาด้า ลดราคาสินค้าในลาซาด้ามากกว่าที่ลดปกติ และ 4.ชอบไทย ลดราคาสินค้าถึง 60% โดยแพลตฟอร์มจะลดทั้งราคาสินค้าและค่าขนส่ง
4.หมวดโลจิสติกส์ มีสายการบิน 3 สายการบินที่เข้าร่วม คือ นกแอร์ ไทยสมายล์ และไลออนแอร์ ซึ่งจะเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าโดยไม่คิดมูลค่าให้กับผู้โดยสาร 5-15 กิโลกรัม
“งานนี้จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องคนไทยทั่วทั้งประเทศไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และขอฝากพาณิชย์จังหวัดทั่วทั้งประเทศให้ช่วยติดตาม เพื่อให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ และประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในตำบล หมู่บ้าน ให้เข้าใจและได้รับรู้ถึงโครงการ และช่วยตรวจตราราคาสินค้าให้เป็นไปตามภารกิจทั่วทั้งประเทศ” นายจุรินทร์ กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่น รวมมากกว่า 16,900 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง ผู้ประกอบการยานยนต์ ยางรถยนต์ โรงพยาบาล โรงแรม และสมาคมภัตตาคารไทย