“ศบค.” ผ่อนเกณฑ์ นทท.ต่างชาติเข้าไทย กลุ่มเรือยอร์ช-เรือสำราญ ให้ “STV” เพิ่มอีก 15 วัน
“ศบค.” ผ่อนเกณฑ์ นทท.ต่างชาติเข้าไทย กลุ่มเรือยอร์ช-เรือสำราญ ให้ “STV” เพิ่มอีก 15 วัน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้พิจารณาปรับหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาในราชอาณาจักรไทย
โดยขยายระยะเวลาการอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มากับเรือสำราญ และกีฬา (เรือยอร์ช) ซึ่งเดินทางออกจากประเทศต้นทาง และอยู่ระหว่างการเดินทางเข้ามาในน่านน้ำไทย มีสิทธิขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (Special Tourist Visa : STV) ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มเติมอีกเป็นเวลา 30 วัน ทั้งนี้จนถึงวันที่ 29 ธ.ค.63
“เดิมได้สิทธิในการเข้าประเทศ 30 วัน แต่ต้องถูกกักตัวไปแล้ว 15 วัน เหลือวันที่จะได้อยู่ข้างนอกอีกแค่ 14-15 วัน ซึ่งไม่พอ ดังนั้นจึงเพิ่มเข้าไปให้อีก 15 วัน ยืดออกไปเป็น 30 วัน อันนี้สำหรับผู้มากับเรือสำราญ และเรือยอร์ช” โฆษก ศบค.ระบุ
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. ยังได้มีมาตรการผ่อนคลายให้ต่างชาติเข้ามาในประเทศได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยพิจารณายกเลิกหลักเกณฑ์การจัดกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือความเสี่ยงปานกลาง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของแต่ละประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงอนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ทุกประเทศ เพียงแต่ต้องเข้าสู่ระบบการกักกันตัวตามที่รัฐกำหนด
นอกจากนี้ ยังพิจารณาขยายวันที่กำหนดให้เดินทางเข้าประเทศไทยตาม CoE (Certificate of Entry) กรณีไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ทันในระยะเวลาเดิมที่กำหนด โดยให้สามารถขยายระยะเวลาออกไปอีกอย่างน้อย 24 ชม. แต่ไม่เกิน 72 ชม. เพื่อจะได้ไม่ต้องไปยื่นคำขอมี CoE ใหม่
ที่ประชุม ศบค. ยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอมา ในการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราว แต่ไม่เกิน 30 วัน ตามสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตรา ประเภท ผ.30 รวมทั้งหมด 56 ประเทศ ประกอบด้วย
– อันดอร์รา, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, บาห์เรน, บูรไน, แคนาดา, เช็ก, เดนมาร์ก, เอลโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, อินโดนีเซีย, ไอร์แลนด์, อิสราเอล, อิตาลี, ญี่ปุ่น, คูเวต, ลัตเวีย, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก
– มาเลเซีย, มัลดีฟท์, มอริเชียส, โมนาโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โอมาน, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, โปรตุเกส, กาตาร์, ซานมาริโน, สิงคโปร์, สโลวัก, สโลเวเนีย, สเปน, แอฟริกาใต้, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ตุรกี, ยูเครน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, บราซิล, เกาหลีใต้, เปรู, ฮ่องกง และเวียดนาม
รวมถึงการให้สิทธินักท่องเที่ยวได้รับอนุญาตเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว แต่ไม่เกิน 30 วัน ตามสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตรา ประเภท ผผ.30 จำนวน 6 ประเทศ ได้แก่
– ฮ่องกง, มาเก๊า, มองโกเลีย, รัสเซีย, ลาว และเวียดนาม (เป็นการให้สิทธิตามความตกลงร่วมของทั้งสองฝ่าย)
และการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ได้ไม่เกิน 90 วัน ตามสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตรา ประเภท ผผ.90 จำนวน 5 ประเทศ ได้แก่
– อาร์เจนตินา, บราซิล, ชิลี, เปรู และเกาหลีใต้ (เป็นการให้สิทธิตามความตกลงร่วมของทั้งสองฝ่าย)
ที่ประชุม ศบค. ยังให้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของกระทรวงมหาดไทย เพื่อคงมาตรการยกเลิกการขออนุญาตให้คนต่างด้าวยื่นขอตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VOA) ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะคลี่คลาย นอกจากนี้ ให้คงการยกเลิกให้คนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตามสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตราได้ไม่เกิน 14 วัน ประเภท ผผ.14 สำหรับกัมพูชาและเมียนมา
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ศบค.ยังได้เห็นชอบให้เพิ่มระยะเวลาการพำนักแก่คนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักร และต้องเข้ารับการกักตัว 14 วัน โดยได้ขยายเวลาอนุญาตพำนักเพิ่มเติมอีก 15 วัน เพื่อชดเชยช่วงระยะเวลาที่ต้องเข้ารับการกักตัวให้กับบุคคลที่ต้องเข้ารับการตรวจลงตราประเภทที่มีระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักรไทย ครั้งละไม่เกิน 30 วัน ดังนี้
1.Transit Visa
2.Tourist Visa ประเภท ผ.30 (56 ประเทศ)
3.บุคคลที่เดินทางมาเพื่อการประชุม หรือแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพหรือได้รับความเห็นชอบจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ศบค.ยังอนุมัติในหลักการให้มีการจัดการแข่งขันกอล์ฟ รายการ Honda LPGA Thailand 2021 ในระหว่างวันที่ 3-9 พ.ค.64 ในประเทศไทย ส่วนการกำหนดจำนวนผู้เข้าชม ให้ผู้จัดพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดในช่วงเวลาขณะนั้น