สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ธ.ค. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ธ.ค. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ โดยข่าวดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการที่แกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,216.45 จุด เพิ่มขึ้น 37.40 จุด หรือ +0.12% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,694.92 จุด ลดลง 14.49 จุด หรือ -0.39% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,742.52 จุด ลดลง 13.12 จุด หรือ -0.10%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์ ส่งผลให้มีการควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้นในอังกฤษ และหลายประเทศสั่งห้ามผู้เดินทางจากอังกฤษเข้าประเทศ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.33% ปิดที่ 389.69 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,246.30 จุด ร่วงลง 384.21 จุด หรือ -2.82%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,393.34 จุด ร่วงลง 134.50 จุด หรือ -2.43% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,416.32 จุด ร่วงลง 112.86 จุด หรือ -1.73%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์ในอังกฤษส่งผลให้มีการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดมากขึ้น และนำไปสู่การห้ามเดินทาง ซึ่งสร้างความวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารและความเสียหายทางเศรษฐกิจ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,416.32 จุด ลดลง 112.86 จุด หรือ -1.73%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษซึ่งทำให้หลายประเทศพากันระงับเที่ยวบินจากอังกฤษนั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 47.74 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนม.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 50.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงซื้อทองคำ หลังจากที่ช่วงแรก สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นขานรับข่าวแกนนำในสภาคองเกรสสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 6.1 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,882.8  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 34.6 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 26.379 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 27 ดอลลาร์ หรือ 2.59% ปิดที่ 1,016.1 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 55.60 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 2,316.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ 90.0400 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 103.34 เยน จากระดับ 103.30 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8846 ฟรังก์ จากระดับ 0.8838 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2829 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2787 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2249 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2241 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3460 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3506 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7596 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7613 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button