ดาวโจนส์ปิดบวกรับข้อมูลศก.สดใส
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) หลังจากมีการเปิดเผยว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในเดือนก.ค. ก่อนที่จะมีการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 23.38 จุด หรือ 0.14% ปิด (3 ก.ย.) ที่ 16,374.76 จุด, ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.27 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 1,951.13 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 16.48 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,733.50 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 7.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 4.186 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศสำหรับรถยนต์และสินค้าด้านอุตสาหกรรมของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.
ขณะเดียวกัน บริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 55.2 ขณะที่ปรับตัวขึ้นจากระดับ 55.7 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 56.0 โดยตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขาขึ้นของตลาดได้ถูกสกัดไว้ เนื่องจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 282,000 ราย โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. แม้ว่าตัวเลขล่าสุดยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 26 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระบุเมื่อวานนี้ว่า ECB พร้อมที่จะเพิ่มการอัดฉีดเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร (1.2 ล้านล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อให้ฟื้นตัวจากระดับต่ำไปสู่เป้าหมายที่ระดับใกล้ 2% และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การแสดงความเห็นของนายดรากีมีขึ้นหลังจากที่ ECB ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมาย
ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดต่างรอดูการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2% จากระดับ 5.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี