TRUE เฮลั่น! ศาลฯถอนอนุญาโต ชดใช้ “ทีโอที” 7.6 หมื่นลบ. กรณีละเมิดสัญญาเน็ตความเร็วสูง

TRUE เฮลั่น! ศาลฯถอนอนุญาโต ชดใช้ "ทีโอที" 7.6 หมื่นลบ. กรณีละเมิดสัญญาเน็ตความเร็วสูง


บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ระบุว่า ตามที่ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2548 บริษัท ทีโอที จํากัด (มหาชน) ได้ยื่นคําเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ ระบุว่า บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ละเมิดข้อตกลงในสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนขยายบริการโทรศัพท์ โดยให้บริการหรือยินยอมให้ผู้อื่นนําอุปกรณ์ในระบบไปให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL) และเรียกค่าเสียหายจากการขาดรายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL) และ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 บริษัทฯยื่นขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในกรณีดังกล่าว ซึ่งได้มีคําชี้ขาดให้บริษัทฯชําระเงินค่าผิดสัญญาให้แก่ทีโอที รายละเอียดตามหนังสือที่อ้างถึง นั้น

โดยวันนี้ ศาลปกครองกลางได้พิพากษาเพิกถอนคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ และยกคําร้องเพื่อขอบังคับตามคําชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการทําให้บริษัทฯ ไม่มีภาระผูกพันในการชําระเงินตามคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ

ทั้งนี้ คู่พิพาทฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับคําพิพากษาดังกล่าวมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คําพิพากษาของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบผลคําพิพากษา หากมีความคืบหน้าที่สําคัญเกี่ยวกับคดีนี้ บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบในลําดับถัดไป

อนึ่ง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2548 บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT) ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ ระบุว่า บริษัทฯ ละเมิดข้อตกลงในสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนขยายบริการโทรศัพท์โดยให้บริการหรือยินยอมให้ผู้อื่นนำอุปกรณ์ในระบบไปให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL) และเรียกค่าเสียหายจากการขาดรายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ADSL) ซึ่งบริษัทฯ ได้เปิดเผยข้อมูลไว้แล้วในแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบ 56-1) ประจำปี 2560 นั้น

โดยเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2561 บริษัทฯ ได้รับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการซึ่งได้มีคำชี้ขาดให้บริษัทฯ ชำระเงินค่าผิดสัญญาให้แก่ทีโอที (1) ตั้งแต่เดือนกันยายน 2544 ถึงสิงหาคม 2558 เป็นจำนวน 59,120.65 ล้านบาท และ ดอกเบี้ยจำนวน 16,978.65 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 6.6875 ต่อปี จากต้นเงิน 59,120.65 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น

รวมทั้ง (2) ให้ชำระเงินตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึงธันวาคม 2560 จำนวน 17,076.92 ล้านบาท และดอกเบี้ยจำนวน 1,298.05 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 6.6875 ต่อปีจากต้นเงิน 17,076.92 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนมกราคม 2561 จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น

Back to top button