NOBLE เทรด “พาร์บาท” พรุ่งนี้ ดันสภาพคล่อง – ขยายฐานนลท.ใน-นอกปท.

NOBLE เทรด "พาร์บาท" พรุ่งนี้ ดันสภาพคล่อง – ขยายฐานนลท.ใน-นอกปท.


นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2564 เป็นต้นไป หลักทรัพย์ของบริษัทจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ราคาพาร์ใหม่ หลังจากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นอย่างเป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2563 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา  มีมติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นของบริษัทฯ ที่ตราไว้ (Par Value) จากเดิมหุ้นละ 3 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ แก่นักลงทุน โดยจำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นจาก 456,471,175 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 3 บาท เป็น 1,369,413,525 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

สำหรับการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการเพิ่มจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) และเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ให้แก่นักลงทุน และเป็นปัจจัยในการส่งเสริมให้บริษัทฯมีคุณสมบัติครบถ้วนในการได้รับการพิจารณาเข้าคำนวณในดัชนี SET100 Index

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2564 เป็นวาระครบรอบ 30 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯมาในปี 2534 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของ “Noble” จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงสู่การเติบโต และแผนการลงทุนพัฒนาโครงการ โดยมีมูลค่ากว่า 45,100 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงได้มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้ง 3 รายของบริษัทฯ ในปัจจุบันถือหุ้นรวมกันประมาณ 50% ประกอบด้วย 1. นาย ธงชัย บุศราพันธ์  2. NCROWNE PTE LTD. นำโดยนายแฟรงค์ ฟง คึ่น เหลียง และ 3. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

โดยเป็นการตอกย้ำศักยภาพการบริหารงาน และความเป็นมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ ในแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อสอดรับกับนโยบายการก้าวสู่ TOP 5 ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยภายในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมทั้งเชื่อว่าจะเป็นการสร้างสีสันความน่าสนใจในการเข้ามาลงทุนให้แก่นักลงทุนในประเทศ รวมถึงนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น

ด้านนายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน  NOBLE กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความแข็งแกร่งทางฐานะทางการเงินในปี 2564 บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนเพื่อการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ทั้งโครงการที่พัฒนาโดยบริษัทฯและโครงการร่วมทุนไว้แล้วกว่า 9,000 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของทุน ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ 1.28 เท่า

นอกจากนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญใหม่ของบริษัทฯครั้งที่ 2 หรือ NOBLE-W2 จำนวน 342.35 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ และจะเริ่มเทรดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม 2564 นี้ โดยวอร์แรนท์ดังกล่าวมีอายุ 3 ปีและสามารถเริ่มใช้สิทธิได้หลังครบ 1 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (เริ่มใช้สิทธิครั้งแรกได้ในเดือนมิถุนายน 2565 โดยราคาแปลงสิทธิที่ 8 บาท) รองรับการอัตราการเติบโตของธุรกิจในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า

“การออกวอร์แรนท์ในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในอนาคต ตามแผนนโยบายของบริษัทฯ ที่พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจและช่วยเสริมฐานเงินทุนให้แข็งแกร่งมากขึ้น สำหรับแผนการรองรับและต่อยอดการพัฒนาโครงการใหม่ๆในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อก้าวสู่ผู้นำ Top 5 ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยตามวิสัยทัศน์ของคณะผู้บริหารที่วางไว้” ด้านนายอรรถวิทย์ กล่าว

Back to top button