AS ตั้งเป้ารายได้ปี 64 โต 20% รับแผนเปิดตัวเกมใหม่ รับฐานลูกค้าเพิ่มช่วง “โควิด-19” ระบาด

นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AS เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2564 เติบโต 10-20% จากปีก่อน และรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิให้ไม่น้อยกว่า 30% จากการมุ่งเน้นการให้บริการเกมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่มากขึ้น โดยปีนี้มีแผนเปิดตัวเกมใหม่ประมาณ 8-10 เกม วางงบลงทุนในการซื้อเกมรวม 50 ล้านบาท และการพัฒนาระบบ หรือซื้ออุปกรณ์ Server อีกราว 50 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการเล่นเกมที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ ส่งผลทำให้ประชาชนต้องอยู่บ้านกันมากขึ้น ก็น่าจะส่งผลดีต่อบริษัท อีกทั้งฐานผู้เล่นเกมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ยังคงเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่มองว่าปีนี้อุตสาหกรรมเกมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังคงเติบโตในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ที่ขยายตัวราว 20% ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์โควิด-19 ส่วนอุตสาหกรรมเกมบนคอมพิวเตอร์ (PC) โดยรวมคาดว่าน่าจะยังคงปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม เกม PC เก่าของบริษัทยังคงเติบโตได้ดี ซึ่งตามแผนปีนี้ก็คาดว่าจะอัพเกรดคอนเท้นท์เกมเก่า และทำกิจกรรมให้ต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงอยู่ระหว่างพิจารณานำเกมเก่ามาเปิดตัวใหม่ และมองโอกาสนำเกม Ascent: Infinite Realm หรือ A:IR ที่บริษัทเคยให้บริการ แต่ปัจจุบันก็ได้มีการนำกลับไปให้บริการที่เกาหลีใต้ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น Elyon มาให้บริการในประเทศไทยอีกครั้งในปีนี้

“ปีนี้เราตั้งใจที่จะเปิดตัวเกมใหม่ 8-10 เกม ซึ่งจะเน้นไปที่เกมบนมือถือ และเน้นซื้อเกมที่มี IP สูง เพื่อมีโอกาสทำเงินได้สูงกว่าเกมที่มี IP ขนาดกลาง เช่น เกม Real Yulgang Mobile ที่ล่าสุด บริษัทได้ลงนามสัญญาร่วมกับ Mgame บริษัทผู้พัฒนาเกมรายใหญ่จากประเทศเกาหลีใต้ ในการถือลิขสิทธิ์เปิดให้บริการเกมมือถือ Real Yulgang Mobile ในประเทศไทย ภายใต้การให้บริการของ PlayPark คาดว่าจะเปิดให้บริการเกมดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาส 1/64 อีกทั้งก็อยู่ระหว่างรอสรุปขั้นตอนสุดท้ายในสัญญา อีก 2 เกม ซึ่งถือว่าเป็นเกม IP ดังเช่นกัน ส่วนที่เหลือก็อยู่ระหว่างพิจารณาเกมระดับ IP กลางๆ เข้ามาผสมในพอร์ต”

อีกทั้งบริษัทยังมีแผนขยายตลาดไปในต่างประเทศเพิ่มเติม ทั้งในอินโดนีเซียและเวียดนาม โดยปัจจุบันมีบริษัทย่อยในประเทศอินโดนีเซียอยู่แล้ว ส่วนที่เวียดนาม อยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุน (JV) กับพันธมิตรในท้องถิ่นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในครึ่งแรกของปี 2564 ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้รายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย และคาดจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 70% จากเดิม 60%

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างมองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ที่ยังคงเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิม หรือ เกมรูปแบบใหม่ ในลักษณะการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตร คาดว่าปีนี้น่าจะเห็นความชัดเจนในรายละเอียดมากขึ้น เนื่องด้วยบริษัทอยู่ในธุรกิจเดิมมานานแล้ว และสถานการณ์ปัจจุบันก็ส่งผลทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีความแข็งแกร่งในด้านเงินทุน จึงถือเป็นโอกาสที่ในการขยายธุรกิจให้เติบโตมากขึ้นในอนาคต

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ชุดที่ 2 หรือ AS-W2 อายุ 3 ปี โดยจะเริ่มใช้สิทธิครั้งแรกในวันที่ 25 มิ.ย. 2564  ส่วนการปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลเป็นไม่น้อยกว่า 50% นั้นคาดว่ามีโอกาสพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในช่วงกลางปี 2564