3 หุ้นยางแกร่งกว่าตลาด! TRUBB นำทีมวิ่งคึก รับดีมานด์พุ่ง หนุนผลงานโตกระโดด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 14.43 น. ราคาหุ้น บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB อยู่ที่ 2.06 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 4.04% สูงสุดที่ 2.12 บาท ต่ำสุดที่ 2 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 51.40 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER อยู่ที่ 4.76 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 2.59% สูงสุดที่ 4.86 บาท ต่ำสุดที่ 4.72 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.11 พันล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA อยู่ที่ 29.50 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.61% สูงสุดที่ 30 บาท ต่ำสุดที่ 28.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 547.83 ล้านบาท

โดย บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น NER ราคาเป้าหมาย 5 บาท ไตรมาส 4/63 คาดว่าผลประกอบจะยังทำสถิติสูงสุดได้ใหม่จากผลดีของปริมาณขายที่ยังสูงกว่า 100,000 ตัน และราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับราคายางพาราในช่วงกลางปีเป็นต้นมา ทำให้คาดกำไรสุทธิมีสิทธิจะออกมาสูงกว่า 250 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มในปี 64 ด้วยปริมาณขายที่คาดว่าจะถึงระดับ 400,000 ตันจากการใช้กำลังการผลิตจากโรงงานใหม่เต็มปี และผลดีจากราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะหนุนให้ผลประกอบการเติบโตได้ดี

ด้านบล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำหุ้น NER เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.80 บาท ตลาดยานยนต์ทั่วโลกฟื้นตัว ดันอุปสงค์การใช้ยางให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้านผู้บริหารประเมินผลกระทบกรณีสหรัฐขึ้นภาษีรถยนต์จีนกระทบต่อ NER ไม่มาก โดยยังมองรายได้ปี 64 โตประมาณ 20-30% เมื่อเทียบจากปีก่อน

ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิใน ปี 2563-2564 ที่ 766 ล้านบาท และ 1,037 ล้านบาท เติบโต 42% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 23% เมื่อเทียบจากปีก่อน ตามลำดับ

สำหรับบล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น STA ราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 43.30 บาทต่อหุ้น ความน่าสนใจในการลงทุนในหุ้น STA 1. รายได้เติบโตสม่ำเสมอ (CAGR) 23.61% จากปี 2563-2565 หนุนโดยการฟื้นตัวของกลุ่มยางธรรมชาติ การฟื้นตัวของกลุ่มยางแท่งและยางแผ่นรมควันที่เริ่มกลับสู่สภาวะปกติหลังจากกลุ่มผู้ผลิตยางล้อรถยนต์ที่กลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติหลังจากผ่านช่วงที่ต่ำสุดในไตรมาส 2/63 และการเติบโตก้าวกระโดดของกลุ่มถุงมือยาง จากการที่ STGT ได้เพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องจาก 3.3 หมื่นล้านชิ้นในปี 2563 สู่ระดับ 5 หมื่นล้านชิ้นปี 2565 และราคาขาย (ASP) ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตาม Demand ที่เพิ่มขึ้น