HANA แรลลี่ยาว! พุ่งต่อ 10% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ลุ้นผลงานปีนี้สดใส

HANA แรลลี่ยาว! พุ่งต่อ 10% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ลุ้นผลงานปีนี้สดใส โดย ณ เวลา 15.42 บาท ราคาอยู่ที่ 57.50 บาท บวก 5.25 บาท หรือ 10.05% สูงสุดที่ระดับ 59.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 52.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.49 พันล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA ณ เวลา 15.42 บาท ราคาอยู่ที่ 57.50 บาท บวก 5.25 บาท หรือ 10.05% สูงสุดที่ระดับ 59.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 52.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.49 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 7 วันทำการนับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 48.50 บาท เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2564 คิดเป็นการปรับตัวขึ้น 19.32% พร้อมกันนี้ ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2536 มีราคา IPO อยู่ที่ 59 บาทต่อหุ้น

ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ม.ค.64) แนะนำ “ถือ” HANA ราคาเป้าหมาย 54.75 บาท/หุ้น

โดยคาดว่า Core profit ไตรมาส 4/63 ลดลง 33% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, ลดลง 25% จากไตรมาสก่อน เป็น 275 ล้านบาท เพราะอัตรากำไรขั้นต้นอ่อนลงจากค่าเงินบาทแข็ง โดยคาดไว้ที่ 10% จาก 13.2% ในไตรมาส 4/62 และ 11.9% ในไตรมาส 3/63 และมีขาดทุนสต็อก อย่างไรก็ดี มีตัวช่วยคือ กำไร FX 180 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายเป็น 455 ล้านบาท (ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, เพิ่มขึ้น 42% จากไตรมาสก่อน)

ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7.4% จากไตรมา เป็น 165 ล้าน US$ ซึ่งดีขึ้นมากจากช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 ที่หดตัวเกือบ 10% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน การฟื้นตัวมาจากอุปสงค์จากลุ่มสมาร์ทโฟนสูงขึ้นหลังเปิดตัว 5G และความต้องการซื้อจากกลุ่มยานยนต์ดีขึ้น

สำหรับแนวโน้มไปได้ดี โดยเฉพาะในครึ่งแรกของปี 2564 โดยอุปสงค์จากกลุ่มสมาร์ทโฟนและยานยนต์ยังแข็งแกร่งต่อ เพราะอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงของการเพิ่มสต็อกหลังมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเมื่อมีวัคซีนโควิด บริษัทกลับมาสั่งซื้ออุปกรณ์เพื่อขยายธุรกิจอีกครั้ง

ส่วนระบบโลจิสติกส์ตึงตัวแต่อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ การตึงตัวเป็นผลจากอุปสงค์ฟื้นตัว แต่ท่าเรือหลายแห่งทั่วโลกยังควบคุมเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ดี HANA มีแผนรับมือด้วยการเพิ่ม Lead time ให้ยาวขึ้นเพื่อให้บริษัทขนส่งสามารถส่งสินค้าได้ตรงเวลา ทั้งนี้สินค้าเซมิคอนดัคเตอร์ 90% ของบริษัทขนส่งทางอากาศ และสินค้าไมโครอิเลคทรอนิกส์ราว 70% ขนส่งทางเรือ และ 10% ขนส่งทางบก

อย่างไรก็ดี แนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐานใหม่ 54.75 บาท อิงกับ P/E ปี 64 ที่ 20 เท่า (+2SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ความเสี่ยงหลัก คือ การแข็งค่าของเงินบาท ที่จะฉุดรายได้และอัตรากำไรรูปบาท ประเมินว่า Core profit ในครึ่งแรกของปี 2564 มีโอกาสอ่อนลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะเติบโตได้ในครึ่งหลังของปี 2564 แล้วทั้งปีจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 17%

Back to top button