UTP พุ่งกระฉูด 15% ทุบสถิติ “ออลไทม์ไฮ” เก็งกำไรปี 63 สดใส-ปันผลสูง

UTP พุ่งกระฉูด 15% ทุบสถิติ "ออลไทม์ไฮ" เก็งกำไรปี 63 สดใส-ปันผลสูง โดย ณ เวลา 14.49 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 17.90 บาท บวก 2.30 บาท หรือ 14.74% สูงสุดที่ 17.90 บาท ต่ำสุด 16.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 260.78 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ยูไนเต็ด เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UTP ล่าสุด ณ เวลา 14.49 น. อยู่ที่ระดับ 17.90 บาท บวก 2.30 บาท หรือ 14.74% สูงสุดที่ 17.90 บาท ต่ำสุด 16.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 260.78 ล้านบาท

ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ม.ค.64) ระบุ แนะนำ “ซื้อ” UTP ราคาเป้าหมาย 18.70 บาท/หุ้น โดยคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/63 เท่ากับ 231 ล้านบาท เติบโต 9% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน แต่อ่อนลง 4% จากไตรมาสก่อน โดยการเติบโตจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน มาจากรายได้เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เป็น 944 ล้านบาท แต่ GRM อ่อนลงเป็น 32% จาก 35% ในไตรมาส 4/62 ส่วนการลดลงจากไตรมาสก่อน เป็นเพราะ GRM ลดจาก 33% ในไตรมาส 3/63 ในขณะที่รายได้ทรงตัวจากไตรมาสก่อน

โดยปริมาณและราคาขายที่สูงขึ้นหนุนให้รายได้เติบโตแข็งแกร่ง 21% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ในไตรมาส 4/63 ทั้งนี้ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เป็น 2.1 หมื่นตัน/เดือน โดยหลักเป็นยอดขายให้กับธุรกิจค้าปลีกในประเทศ ขณะที่ปริมาณส่งออกอยู่ที่ 1 พันตัน/เดือน ซึ่งลดลงจากไตรมาส 3/63 ที่ 5 พันตัน/เดือน ด้านราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน เป็น 15.1 บาท/กก.

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GRM) ลดลงในไตรมาส 4/63 สู่ระดับ 32% เพราะราคาวัตถุดิบเศษกระดาษสูงขึ้น เนื่องจากอุปทานในยุโรปและสหรัฐลดลงหลังมีการ Lockdown แต่เชื่อว่าราคาเศษกระดาษจะลดลงเมื่อรัฐบาลจีนแบนการนำเข้าเศษกระดาษในปี 64 และยุโรป & สหรัฐทยอยผ่อนคลาย Lockdown

สำหรับแนวโน้มไปได้ดี ผู้บริหารคาดว่า GPM จะฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/64 เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 64/65 ขยายตัว 8%/9% โดยคาดว่าบริษัทจะใช้กำลังการผลิตสูงที่ 90-92% เพราะขยายการส่งออกและเพิ่มลูกค้าใหม่, GPM ขยับขึ้นเป็น 36.5% ในปี 64 และเป็น 37.5% ในปี 65 เพราะเพิ่มสัดส่วนกระดาษคราฟท์ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงที่ 30-40%, ต้นทุนเศษกระดาษลดลง (เศษกระดาษคิดเป็น 55% ของต้นทุนการผลิตรวม) และเติบโตสูงไปพร้อมกับ E-commerce โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร รวมทั้งความพยายามลดการใช้พลาสติกเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 18.7 บาท อิงกับ P/E ปี 2564 ที่ 11.2 เท่า โดยปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63/64 ขึ้น 3%/6% สะท้อนยอดขายและ GPM ที่ดีขึ้น ณ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 64 ประมาณ 9 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 12.5 เท่า บริษัทมี ROE สูง (ปี 2563 อยู่ที่ 28% ขณะที่อุตสาหกรรม 14%) และจ่ายปันผลสูง ประมาณการเงินปันผลปี 63/64 ไว้ที่ 0.84/0.92 บาท/หุ้น คิดเป็น DY 5.4%/5.9%

Back to top button