TACC บวกแรง 6% นิวไฮรอบ 3 ปี ครึ่ง! ลุ้นงบฯ Q4 ทำสถิติสูงสุดใหม่-แนะซื้อเป้า 8.30 บ.

TACC บวกแรง 6% นิวไฮรอบ 3 ปี ครึ่ง! ลุ้นงบฯ Q4 ทำสถิติสูงสุดใหม่-แนะซื้อเป้า 8.30 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ณ เวลา 15.40 น. อยู่ที่ระดับ 7.40  บาท บวก 0.40 บาท หรือ 5.71% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 173.48 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 3 ปี ครึ่งโดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 7.45 บาท เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.60

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า TACC ในไตรมาส 4/2563 คาดจะมีกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 45 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 8.20% จากไตรมาสก่อนประมาณ 47 ล้านบาท ตามแนวโน้มมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจาก Product mix, ขายสินค้ามาร์จิ้นสูงได้มากขึ้นและไม่มี One time item กดดันเหมือนไตรมาสก่อน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit margin หรือ GPM) ขยับเพิ่มขึ้นที่ 33% จากไตรมาส 4/2562 ที่ 30.90% และไตรมาส 3/2563 ที่ 32.20%

ทั้งนี้ แม้ว่ายอดขายลดลง 9.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบ โควิด-19 และจำนวนลูกค้าเข้าร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น (7-11) ลดลง แต่ค่อยฟื้นตัวดีขึ้น เป็นเพิ่มขึ้น 4.50% จากไตรมาสก่อน บวกคุมค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (SG&A) ได้ดีเทียบยอดขายอยู่ที่ 15.80% ลดลงจากไตรมาส 4/2562 ที่ 17% และจากไตรมาส 3/2563 ที่ 16% แต่อย่างไรก็ดีน้อยกว่าคาดก่อนหน้าจึงปรับกำไรทั้งปี 2563 เป็น 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.80% จากปี 2562 ที่ 162 ล้านบาทจึงคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานเดิม 8 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุว่า TACC ได้ sentiment เชิงบวก หลังมีข่าวบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR มีแนวโน้มต่อสัญญาร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นในปั๊มน้ำมัน เนื่องจากในประมาณ TACC ได้รวมการต่อสัญญาของเซเว่น-อีเลฟเว่น ในปั๊มน้ำมันไปแล้ว แต่คาดจะได้เห็น sentiment เชิงบวกในระยะสั้น หากในกรณี OR ไม่ต่อสัญญากับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ปัจจุบันสาขาเซเว่น-อีเลฟเว่น ในปั๊มมี 1,800 สาขา คิดเป็น 15% ของสาขาเซเว่น-อีเลฟเว่น ทั่วประเทศคาดจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของ TACC ราว 183 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 12% ของรายได้รวมปี 2564 และคิดเป็น 11% ของกำไรสุทธิปี 2564

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า CPALL จะสามารถต่อสัญญากับ OR เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน รวมถึงปัจจุบันสาขาเซเว่น-อีเลฟเว่น ในปั๊มน้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 92% ของสถานีปั๊มน้ำมัน PTT ทั่วประเทศ ในขณะที่ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ มีเพียง 150 สาขา หรือคิดเป็น 8% เท่านั้น

ดังนั้น คงกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 4/2563 คาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้ Project upsize strategy (แก้วใหญ่ 22 ออนซ์) ของเครื่องดื่ม All cafe เต็มไตรมาส และคงกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน

โดยปี 2564ได้รวมสมมติฐานการขยายสาขาเซเว่น-อีเลฟเว่น ไปยังประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว มีรายได้จากทั้ง 2 ประเทศประมาณ 12 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นได้สมมติฐานการเปิดสาขาในกัมพูชา 100 สาขา และสปป.ลาว 100 สาขา ในช่วงเริ่มต้นคาดรายได้เฉลี่ยของ TACC ต่อสาขาต่อปี เฉลี่ยอยู่ที่ 60,000 บาท (ในปี 2564 ประเทศไทย รายได้เฉลี่ยของ TACC ต่อสาขาต่อปี เท่ากับ 109,600 บาท) จึงมีแนวโน้มปรับกำไรสุทธิปี 2564 ขึ้น หากมีความชัดเจนดีล M&A ขณะที่แนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมายที่ 8.30 บาท อิงอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (PER) ปี 2564 ที่ 21.60 เท่า

Back to top button