SABUY วิ่งฉิว 5% ลุ้นแผนดัน VDP เข้าตลาดหุ้น หนุนผลงานโตแกร่ง!
SABUY วิ่งฉิว 5% ลุ้นแผนดัน VDP เข้าตลาดหุ้น หนุนผลงานโตแกร่ง!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ณ เวลา 11.31 น. อยู่ที่ระดับ 2.12 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 4.95% สูงสุดที่ระดับ 2.18 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.04 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 143.40 ล้านบาท
ด้านนายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน SABUY เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนนำบริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด (VDP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SABUY ถือหุ้นอยู่ 82.47% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลา 3 ปีจากนี้ ขณะที่ในฐานะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว จะต้องทำให้ผลการดำเนินงานเข้าหลักเกณฑ์ ซึ่งในปี 2564 VDP ตั้งเป้าหมายมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีก่อน และพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ
โดยในปี 2564 VDP ตั้งเป้าหมายขยายตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเติบโต 2 เท่า เป็น 12,000 ตู้ จากสิ้นปี 2563 มีอยู่ที่ 6,000 ตู้ ครอบคลุม 21 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะเน้นกลยุทธ์การขยายไปในจังหวัดอื่น ๆ มากขึ้น มุ่งไปที่สถานที่ที่ยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย แหล่งชุมชนต่าง ๆ และที่พักอาศัย ประกอบกับพัฒนาเทคโนโลยีของตู้ เพื่อให้ดึงดูดความสนใจและการใช้งานของประชาชนได้สูงสุด เช่น Sabuy Exchange ที่เข้ามาช่วยเสริมเรื่องของ Loyalty Program ให้กับตู้เวนดิ้งพลัส
ขณะเดียวกันยังเดินหน้าเพิ่มพันธมิตร และสินค้าใหม่ ๆ จากปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายหลายชนิด ทั้งหน้ากากผ้า ชุดชั้นในจากซาบีน่า, หน้ากาก กระเป๋าผ้าจากนารายา, หน้ากากลิขสิทธิ์ไลน์จาก Kireo, สินค้า gadget จาก Rizz, MP3 CD เพลงจาก GMM, เสื้อโปโลจากแบรนด์ FU และสินค้าเครื่องสำอางแบบซอง อาทิ Smooto, Morika และ Jula’s herb
ทั้งนี้ ล่าสุดได้นำสินค้าลิขสิทธิ์เข้ามาจำหน่ายในตู้ ได้แก่ น้ำดื่มลายการ์ตูนลิขสิทธิ์แรก คือ “โดราเอมอน” จำนวน 40 ลาย ทั้งน้ำแร่และน้ำเปล่า ตั้งเป้าหมายมียอดขาย 4 ล้านขวด ภายในปี 2564 โดยในช่วงแรกจะเริ่มจำหน่าย 20 ลาย ประกอบด้วย น้ำแร่ 10 ลาย และน้ำเปล่า 10 ลาย จากนั้นจะทยอยวางจำหน่ายให้ครบ 40 ลาย พร้อมขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านทาง Online Market place ด้วย รวมทั้งจะมีลายลิขสิทธิ์เพิ่มอีก 2 ลาย ภายในปี 2564
นอกจากนี้ ในปี 2564 บริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 200 ล้านบาท สำหรับการควบรวม หรือเข้าซื้อกิจการ (M&A) ร่วมลงทุน (JV) และร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา M&A และ JV ประมาณ 2-3 ดีล และเจรจาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอีก 8-9 ดีล คาดว่าในปี 2564 จะได้ข้อสรุปประมาณ 10 ดีล
“สายงานพาณิชย์และการลงทุนเน้นแนวนโยบายในการเปิดกว้างด้านพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรูปแบบไหน ในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เราไม่ได้มองแค่ว่าต้องลงทุนในกิจการนั้น ๆ หรือต้องมีการควบรวมฯ แต่ยังเปิดกว้างสำหรับการรูปแบบต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับทั้งเรา และพาร์ตเนอร์ และที่สำคัญที่สุดลูกค้าของทั้งเราและพาร์ตเนอร์ของเราต้องได้ประโยชน์” นายวิรัช กล่าว