JMART ส่ง”เจ เวนเจอร์ส” ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น “TIS” ต่อยอดเทคโนโลยีการเงิน เสริมแกร่งธุรกิจ

อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Investment Holding Company (IHC) เปิดเผยถึง ภาพการเปลี่ยนแปลงของวงการฟินเทคในประเทศไทย เมื่อ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเจมาร์ทที่ถือหุ้น 80% ได้รับความสนใจจาก บริษัท TIS Inc. ซึ่งเป็นบริษัทไอทีระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชั่นทางด้านไอที (IT Solution Provider) ให้กับลูกค้าองค์กรเอกชนระดับโลก ทั้งในอุตสาหกรรมการเงิน การผลิต การบริการ รวมถึงองค์กรของภาครัฐ ดังนั้น การเข้ามาร่วมลงทุนครั้งนี้ จะทำให้เจมาร์ทมีแต้มต่อเหนือคู่แข่งในประเทศไทย

สำหรับแผนการร่วมทุนในครั้งนี้ สะท้อนความมั่นใจของนักลงทุนจากต่างประเทศในกลุ่มเจมาร์ท ทำให้เจเวนเจอร์ส ได้ Valuation ถึง 1,100 ล้าน หรือ 11 เท่า จากเงินลงทุนของเจมาร์ท ตอกย้ำความเป็น Tech Company ที่แข็งแกร่งและอนาคตไกล

ด้าน นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JVC ในฐานะ Tech Company ในกลุ่ม เจมาร์ท เปิดเผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า เจ มาร์ท ถือเป็นบริษัทไทยที่มีช่องทางการจำหน่ายค้าปลีกที่หลากหลาย มีฐานะข้อมูล และมีการเตรียมการทางด้าน Digitization Transformation มาระยะหนึ่งแล้ว ตนเองในฐานะที่เป็นผู้ผลักดันการนำเทคโนโลยีทางด้านธุรกิจ ค้าปลีกและการเงินมากขึ้นในกลุ่ม มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือกับ TIS Inc ครั้งนี้ จะยิ่งเร่งสร้าง Ecosystem ทางด้านค้าปลีกและการเงินอย่างเต็มรูปแบบ ให้ทัดเทียมกับบริษัทในต่างประเทศ

นายอดิศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมดิจิทัลในปัจจุบัน ญี่ปุ่นก็ถือเป็นผู้นำในระดับโลก เป็นบริษัท IT Solution Provider 1 ใน 5 ของประเทศญี่ปุ่นที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง และหากมองย้อนไปดูการลงทุนของ TIS Inc. กับบริษัทในประเทศไทย เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา TIS ได้เข้าลงทุนในบริษัท Grab ด้วยมูลค่าลงทุน 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อต่อยอดการพัฒนา Application ให้กับ GrabPay และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ TIS Inc. เข้ามาลงทุนกับบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท ยิ่งสะท้อนศักยภาพของกลุ่มบริษัท และการเติบโตใน Ecosystem ของเจมาร์ทในอนาคต รวมถึงต่อยอด Digitization นำเทคโนโลยี Blockchain มาปรับใช้ จากอนาล็อกสู่โลกดิจิทัล ได้อย่างเป็นรูปธรรม และชัดเจนที่สุด เกมการเงินในยุคฟินเทคจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน อยากให้ทุกท่านติดตามดูต่อไป ซึ่งเรามั่นใจว่า จะยังมีอีกหลายสตอรี่ที่จะทยอยประกาศออกมาในปีนี้