DELTA กำไร 7.1 พันล้าน สินค้าคงเหลือพุ่ง 40% ลูกหนี้การค้า 1.4 หมื่นล้าน

บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA รายงานผลการดำเนินงานสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ดังนี้

โดยผลการดำเนินงานงวดปี 2563 มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายตามงบการเงินรวมในปี 2563 มีจำนวน 63,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.4 และร้อยละ 19.1 จากปี 2562 และปี2561 ตามลำดับ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายของกลุ่มธุรกิจเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ (Power Electronics) โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายในกลุ่มเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ระบบศูนย์ข้อมูล (Data Center) และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Solutions)

อีกทั้งมีกำไรจากอตัราแลกเปลี่ยนจำนวน 388ล้านบาท เพิ่มขึ้น 356ล้านบาทและ 211ล้านบาท จากปี 2562 และปี 2561 ตามลำดับ เนื่องจากค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมีเสถียรภาพมากขึ้นในปี 2563

ขณะที่ในปี 2563 ต้นทุนขายคิดเป็นร้อยละ 76.1 ของยอดขายทั้งหมดต่ำกว่าร้อยละ 79.6และร้อยละ 77.2 ในปี 2562 และปี 2561 ตามลำดับ เนื่องจากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ (product mixed) ที่เปลี่ยนไป หลังจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายของธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง ระบบศูนย์กักเก็บข้อมูลและยานยนต์ไฟฟ้าในปีนี้

พร้อมกันนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2563 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 โดยอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 3.30 บาทต่อหุ้น วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 4 มี.ค. 2564 วันที่จ่ายปันผล 8 เม.ย. 2564

อย่างไรก็ดียอดลูกหนี้การค้าสุทธิณ วันที่ 31ธันวาคม 2563 มีจำนวน 13,997ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 และปี 2561 ที่ร้อยละ 42.2 และร้อยละ 16.1 ตามลำดับ เป็นผลสืบเนื่องมาจากรายไดจ้ากการขายที่เพิ่มขึ้น

อีกทั้งสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีจำนวน 12,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.6 จากปี 2562 และร้อยละ 31.8 จากปี 2561 ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แแกร่งของลูกค้า และอุปทานที่ตึงตัวในตลาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำคัญจากการระบาดของ Covid-19 จากความตอ้งการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก