DEMCO เผยมี backlog 5.8 พันลบ. คาด “วินด์เอ็นเนอร์ยี่ส์” เข้าเทรดได้ปี 59

DEMCO เผยบริษัทมี backlog ราว 5.8 พันลบ.เริ่มรับรู้ช่วงที่เหลือของปีนี้ 3.2 พันลบ. และยื่นประมูลงานใหม่อีกราว 1.1 หมื่นลบ.พร้อมส่ง "วินด์เอ็นเนอร์ยี่ส์" เข้า SET ช่วงปี 59 เพื่อระดมทุน 8,000-10,000 ลบ. โดยจะยื่นไฟลิ่งช่วง Q1/59 อีกทั้ง


นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปัจจุบันมีปริมาณงานในมือ (Backlog) ราว 5,850 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 3,200 ล้านบาท

ขณะที่เตรียมพร้อมเข้าประมูลงานด้านสายส่งและสถานีไฟฟ้าของกฟผ.และภาคเอกชนอีกอย่างน้อย 5-6 โครงการที่มีมูลค่างานรวมประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท และยังรอโอกาสที่จะเข้าทำงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมจาก ผู้พัฒนาโครงการอีก 2 -3 ราย มูลค่ารวมไม่น่าจะน้อยกว่า 2,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้แยกเป็นงานด้านวิศวกรรมไฟฟ้า 3,614 ล้านบาท งานด้านพลังงานทดแทน 2,230 ล้านบาท และเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ในช่วงที่เหลือของปีอีก 11,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับงานวิศวกรรมไฟฟ้าเพิ่มประมาณ 2,000 ล้านบาท รับงานด้านพลังงานทดแทนเพิ่มประมาณ 2,500 ล้านบาท เมื่อรวมกับ Backlog ที่มีอยู่จะเป็นงานที่จะต้องดำเนินการทั้งสิ้น 10,344 ล้านบาท

โดยส่วนของการลงทุนในประเทศการถือหุ้น 15 % ในโครงการพลังงานลมห้วยบง 2, 3 กำลังการผลิต 180 เมกะวัตต์ และถือหุ้น 49-100% ในโครงการโซลล่าร์ฟาร์มและโซล่ารูฟท็อป กำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 58 ประมาณ 86 ล้านบาท และเมื่อรวมทั้งปีคาดว่าจะมีส่วนแบ่งกำไรในปี 58 ทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 195 ล้านบาท

สำหรับการลงทุน 1% ในโครงการพลังงานลม เขาค้อ และการถือหุ้น 4% ใน WEH จะสร้างผลตอบแทนให้บริษัทในปี 59 โดยบริษัทจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากโครงการเขาค้อเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 40-50 ล้านบาท

ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศบริษัท เด็มโก้ เดอร์ ลาว จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ DEMCO ได้ลงนามสัญญาสัมปทานการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้แก่รัฐวิสาหกิจน้ำประปาแขวงหลวงพระบาง เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนดระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี บริษัทได้เริ่มงานออกแบบโครงการ งานปรับปรุงพื้นที่ก่อสร้างระบบผลิตและจำหน่ายไปแล้วตั้งแต่ในเดือน ก.ค.58 และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายน้ำประปาในไตรมาส 1/59 โดยมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการในระยะเวลา 30 ปี เป็นเงินประมาณ 900 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 มีรายได้รวม 1,125.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 91.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  ส่วนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 58 มีรายได้รวม 2,182.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.9 % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 168.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

นอกจากนี้ นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ DEMCO ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 4% ในบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH คาดว่า วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 59 เพื่อระดมทุนราว 8,000-10,000 ล้านบาท โดยจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ในช่วงไตรมาส 1/59

ทั้งนี้ วินด์ฯ ต้องการนำเงินไปใช้ลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมวะตะแบก ใน จ.ชัยภูมิ 60 เมกะวัตต์ ,โครงการใน จ.นครราชสีมา 3 โครงการ กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์/โครงการ และ โครงการ North Kritsana กำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนราว 3 หมื่นล้านบาท ส่วนเงินลงทุนที่เหลือจากการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) แล้วจะมาจากเงินกู้โครงการ (project finance)

ขณะที่ โครงการลงทุนของวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง หลังกลุ่มเคพีเอ็น (KPN) ได้เข้ามาซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น (REC) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ WHE แทนนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ซึ่งมีปัญหาคดีความ

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพิจารณาสัดส่วนการถือหุ้นใน WEH อีกครั้ง หาก WEH เพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 59 โดยจะพิจารณาว่าราคามีความเหมาะสมแก่การเข้าเพิ่มทุนหรือไม่ ซึ่งหากมีความเหมาะสมบริษัทก็อาจเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้นไป ขณะเดียวกันก็อาจจะพิจารณาขายหุ้นออกมาได้หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าต่างๆของบริษัท

อนึ่ง ปัจจุบัน WEH ได้ยื่นเสนอขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)จำนวน 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 930 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)แล้ว 660 เมกะวัตต์ ในส่วนนี้ดำเนินโครงการแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ ห้วยบง 2 และ 3 รวม 180 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการเขาค้อ และวะตะแบก กำลังการผลิตโครงการละ 60 เมกะวัตต์อยู่ระหว่างก่อสร้าง จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 59

Back to top button