น้ำมันดิบปิดบวกแม้สต็อกในสหรัฐเพิ่มเกินคาด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงในสหรัฐและการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก แม้ว่ามีการเปิดเผยปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิด (10 ก.ย.) ปรับขึ้น 1.77 ดอลลาร์ แตะที่ 45.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ที่ 48.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณการผลิตที่ลดลงในสหรัฐได้ช่วยชดเชยผลกระทบจากข้อมูลปริมาณสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 458 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันที่สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้

สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 897,000 บาร์เรล สู่ระดับ 56.4 ล้านบาร์เรล ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 384,000 บาร์เรล สู่ระดับ 214.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล ขณะที่ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 952,000 บาร์เรล สู่ระดับ 150.9 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล

ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลของ EIA ที่ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 83,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 9.135 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน EIA ประเมินว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง 140,000 บาร์เรลในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตในเดือนก.ค. และคาดว่าการผลิตจะยังคงลดลงจนถึงช่วงกลางปี 2559 ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในปลายปีหน้า

Back to top button