ดอลล์อ่อนค่าหลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐไร้ทิศทาง

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้มีความไม่แน่นอนว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1284 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1198 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5470 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5365 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.68 เยน จาก 120.56 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9716 ฟรังก์ จาก 0.9745 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7085 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7017 ดอลลาร์ ดอลลาร์ปรับตัวลง เนื่องจากสหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวแตกต่างกัน ซึ่งทำให้ยากที่จะประเมินทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 275,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 275,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 27 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

ขณะเดียวกัน กระทรวงรายงานว่า ดัชนีราคานำเข้าร่วงลง 1.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าและราคาน้ำมันที่ร่วงลง เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าทรุดตัวลง 11.4% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 ส่วนดัชนีราคาส่งออกร่วงลง 1.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และทรุดตัวลง 7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2552

นักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลข้างต้นบ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและเงินฟ้อที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่ขัดแย้งกันในประเด็นที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้าหรือไม่ โดยเฟดกำหนดจัดประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้

Back to top button