SENA ตุน Backlog 2.5-2.6 พันลบ. รับรู้ฯ ปีนี้ 1 พันลบ.

SENA ตุน Backlog 2.5-2.6 พันลบ. รับรู้ฯ ปีนี้ 1 พันลบ. เผยอยู่ระหว่างเจรจาเข้าเทคโอเวอร์กิจการบริษัทที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง-วางระบบวิศวกรรม โซลาร์รูฟท็อป เชื่อช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ


นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีบริษัทสามารถทำยอดขายอสังหาริมทรัพย์ได้แล้วกว่า 2.5-2.6  พันล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะเปิดโครงการแนวราบอีก 3 โครงการมูลค่ารวม 2 พันล้านบาท และในเดือนกันยายนนี้ ได้ปรับเพิ่มราคาขายขึ้นอีก 5% เพื่อให้มีความสอดคล้องกับราคาในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น

“ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่กว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในปีนี้ ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ และตัวแปรที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งที่กดดันคือ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าบางรายได้รับการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า “ไฟนีออน” เชื่อมั่นว่าจะสามารถปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์” นางเกษรากล่าว

ทั้งนี้ในปี 2558 บริษัทได้ตัดสินใจรุกสู่ตลาดกลุ่มลูกค้าในระดับ B+ ที่มีฐานรายได้ในระดับ 100,000 บาท ด้วยการเปิดโครงการใหม่ประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8,500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นแนวราบ 7 แห่ง และแนวสูง 3 แห่ง โดยสาเหตุที่ลงมาเล่นตลาดนี้ เพราะต้องการกระจายความเสี่ยงธุรกิจ หลังภาวะหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากยอดปฏิเสธสินเชื่อลูกค้าของเสนาฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น   

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 262 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในราคาส่วนลดไม่เกิน 50% ของราคาตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อเข้าลงทุนใน TTRE สัดส่วน 99.9995% รุกคืบเข้าสู่ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทน ผ่านการร่วมทุนกับบริษัท บี.กริมเพาเวอร์ จำกัด ในโครงการโซลาร์ฟาร์มกำลังการผลิต 46.5 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 3,336 ล้านบาท เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงให้บริษัทยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เสี่ยงน้อย และสร้างรายได้สม่ำเสมอในระยะยาว ซึ่งจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นและขอมติเพิ่มทุนในเดือนกันยายนนี้

ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าไปเทคโอเวอร์กิจการบริษัทที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและวางระบบวิศวกรรม (EPC) โซลาร์รูฟท็อป ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และบริษัทจะมีรายได้พิเศษเสริมเข้ามาจากการรับงานติดตั้งโซลาร์รูฟฯ ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นด้วย และเป็นการตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าของเสนาฯครบ 360 องศา เริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษา การติดตั้ง การให้บริการหลังการขาย ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาในอนาคต และเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าที่ซื้อบ้านกับเสนาฯได้อีกด้วย

ขณะที่ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ติดตั้งบนหลังคาโกดังของบริษัทที่สุขุมวิท ไปแล้ว โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 750 กิโลวัตต์ ซึ่งจะทำให้ปีนี้จะรับรู้รายได้จากการขายไฟจากโครงการดังกล่าวเข้ามาประมาณ 3.5 ล้านบาท และในปี 2559 จะรับรู้เต็มปีเป็นจำนวน 7 ล้านบาท สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทในปี 2558 จะมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 85% รายได้ค่าเช่า 10% และรายได้โครงการพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 5%

Back to top button