สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้

สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 11 ก.ย.58


– ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.57 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.75 เยน/ดอลลาร์

– ส่วนเงินยูโร เย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1270 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1280 ดอลลาร์/ยูโร

– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,381.72 ลดลง 14.44 จุด หรือ 1.03% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 42,523 ล้านบาท

– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 510.09 ล้านบาท (SET+MAI)

 

– ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ในการประชุมวันที่ 16 ก.ย.58 นี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจต่างประเทศของไทย ภายใต้บริบทความผันผวนทางการเงินที่อยู่ในระดับสูง จากคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

– สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2559 สบน.ได้เตรียมแผนจะออกพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 104,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยครั้งที่ 1 เป็นพันธบัตรอายุ 3 ปี วงเงิน 50,000 ล้านบาท คาดว่าจะออกช่วงเดือน ต.ค.58-ม.ค.59 รองรับการใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญ ตามพ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2594 พ.ศ.2557 หรือ พ.ร.บ.Undo

ส่วนครั้งที่ 2 เป็นพันธบัตรอายุ 3 ปี วงเงิน 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะออกช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค.59 เพื่อรองรับช่วงงาน Money Expo และครั้งที่ 3 เป็นพันธบัตรอายุ 5 ปี วงเงิน 50,000 ล้านบาท คาดจว่าะออกช่วงเดือนมิ.ย.59 เพื่อรองรับโครงการไทยเข้มแข็ง

– ภาคประชาสังคมและภาคธุรกิจ เสนอตัวเข้ามาดูแลการใช้เม็ดเงิน 1.3 แสนล้านบาท มีการเสนอเปลี่ยนจากงบประมาณที่จัดสรรเพื่อใช้จ่ายเพื่อการบริโภคมาเป็นการลงทุนเพื่อสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และฐานทรัพยากร ซึ่งเป็นฐานรากต่อเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืน

– สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO NIDA Investor Sentiment Index) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้มีปัจจัยมาจากนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ เพื่อใช้ในการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น การขยายส่วนต่อรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง การประมูลคลื่นความถี่ 4G

– ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เห็นชอบหลักการเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558-2559 และเงินกองทุนฯ โดยเน้นการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การพัฒนาผู้ประกอบการด้านศิลปหัตถกรรม การจัดทำแผนและพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนส่งเสริมเอสเอ็มอี และยุทธศาสตร์ส่งเสริมเอสเอ็มอีในระยะเร่งด่วน ตลอดจนการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs BANK) ในวงเงินงบประมาณกว่า 475 ล้านบาท

– ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีน กล่าวถึงความกังวลที่ว่าทุนสำรองระหว่างประเทศที่อาจจะร่อยหรอลง หลังจากที่ทุนสำรองดังกล่าวร่วงลงอย่างหนักถึง 9.36 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนส.ค. โดยระบุว่ามีสาเหตุจากการใช้จ่ายอย่างหนัก เพื่อหนุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนหลังจากการที่จีนได้ปรับลดค่าเงินหยวน พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่มีการแทรกแซงในตลาดอีก

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button