SKE พุ่งแรง 13% ลุ้นรายได้ปีนี้โต 700 ล้าน พร้อมชิงเค้กโรงไฟฟ้าชุมชน-เมกะโซลาร์ทบ.

SKE พุ่งแรง 13% ลุ้นรายได้ปีนี้โต 700 ล้าน พร้อมชิงเค้กโรงไฟฟ้าชุมชน-เมกะโซลาร์ทบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน)  หรือ SKE ณ เวลา 16.24 น. อยู่ที่ระดับ 1.01 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 13.48%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 99.33 ล้านบาท  ราคาหุ้นปรับตัวแรงในรอบ 1 ปี 4 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 1.01 บาท เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2562

โดยก่อนหน้านี้นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE กล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้ประมาณ 700 ล้านบาท จากปี 2563 ที่มีรายได้ 533 ล้านบาท โดยคาดจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าประมาณ 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ซึ่งบริษัทมีแผน จะเข้าประมูลโรงไฟฟ้าชุมชนของภาครัฐ จำนวน 14 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 38 เมกะวัตต์ (MW) คาดว่าจะชนะการประมูลประมาณ 50% ทั้งนี้ คาดจะมีรายละเอียดเงื่อนไขการลงทุน (TOR) ในช่วงปลายเดือนมี.ค. 2564

นอกจากนี้ บริษัทจะเข้าร่วมในโครงการเมกะโซลาร์ของกองทัพบก ขนาดกำลังการผลิต 30,000 เมกะวัตต์ โดยกองทัพบกช่อง 5 (ทบ.5) นำเสนอให้นำพื้นที่ 4.5 ล้านไร่มาใช้ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 เฟส ประกอบด้วย เฟสนำร่อง คาดจะเปิดประมาณ 300 เมกะวัตต์ บริษัทจะยื่นเข้าไปประมาณ 50 เมกะวัตต์ เงินลงทุนประมาณ 20 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ หรือคิดเป็นเงินลงทุนรวม 1,000 ล้านบาท คาดจะสามารถลงนามสัญญารับซื้อไฟฟ้า (PPA) ช่วงปลายปี 2564 และคาดจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2565 ส่วนเฟส 1 และเฟส 2 จะยื่นประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น เฟส 1 ประมาณ 450 เมกะวัตต์ และเฟส 2 ประมาณ 550 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม SKE ยังคงเป้าหมายที่จะมีโรงไฟฟ้า 30 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565 จากปัจจุบันที่มีในมือประมาณ 4 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการโซลาร์รูฟท็อปของที่อยู่อาศัย ขนาดประมาณ 100 กิโลวัตต์

ขณะเดียวกันล่าสุด คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ได้อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 เม.ย. 2564 ในการเข้าซื้อบริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด หรือ N15 มูลค่า 145 ล้านบาท ซึ่ง N15 ประกอบธุรกิจบริหารจัดการของเสีย หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย โดยการคัดแยกและแปรรูปขยะเป็นเชื้อเพลิงทดแทน (Refuse Derived Fuel : RDF) สามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิงทดแทนสำหรับเตาเผาอุตสาหกรรมได้

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน N15 มีรายได้ทั้งจากการบริการคัดแยกและกำจัดขยะ รวมทั้งธุรกิจจัดจำหน่าย RDF โดยจะให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่เป็นโรงปูนเป็นส่วนใหญ่ และมีศักยภาพที่จะเติบโตในธุรกิจการให้บริการแปรรูป และจำหน่ายขยะเชื้อเพลิงให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ SKE และเป็นการรุกขยายธุรกิจทางด้านพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตาม คาดอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ประมาณ 9% และคาดจะคุ้มทุน (Break Even) ประมาณ 10 ปี ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ในไตรมาส 2/2564

โดย SKE จะใช้แหล่งเงินทุนที่มาจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 186 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) อัตราจองซื้อ 5 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ด้วยราคาเสนอขายหุ้นละ 0.80 บาท คาดว่าจะได้เงินจากการเพิ่มทุนไม่เกิน 148.80 ล้านบาท หากในกรณีเงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เพียงพอ SKE จะกู้ยืมจากสถาบันการเงินในประเทศ ซึ่งคาดว่า การกู้ยืมดังกล่าวไม่มีเงื่อนไขที่มีผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นของ SKE

Back to top button