SET ปิดเช้าพุ่ง 15 จุด ลุ้น Window Dressing ก่อนปิดงบ Q1/64 บ่ายเสี่ยงเจอขายทำกำไร

สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,589.81 จุด เพิ่มขึ้น 14.95 จุด หรือ 0.95% มูลค่าการซื้อขาย 3.93 หมื่นล้านบาท 

10 หุ้นดันดัชนีเช้านี้

ด้านนักวิเคราะห์ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ต่างปรับตัวขึ้น แม้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเช้านี้จะอ่อนลง เนื่องจากมีความคาดหวังความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯในช่วงกลางสัปดาห์นี้ และปัญหาคลองสุเอซก็เริ่มคลายตัวไปบ้างแล้ว อีกทั้งบ้านเราก็มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาช่วยหนุนด้วย

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 มี.ค.-1 เม.ย.นี้ และจับตานายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพูดถึงความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐในวันพุธนี้ รวมถึงรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่จะทยอยออกมาในช่วงกลางเดือนหน้า

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway up โดยมีแนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด

ขณะที่นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ให้น้ำหนักอิงบวก หลังจากที่เริ่มมีการทยอยเปิดเศรษฐกิจ โดยที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ผ่านหลักการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วของ จ.ภูเก็ต ทำให้เป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน และยังมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องด้วย

นอกจากนี้ สัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะมีการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/64 ซึ่งจากอดีตที่ผ่านมามีโอกาสที่จะเกิดขึ้น 67% ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 1.2% แต่ตลาดคงจะไปไหนได้ไม่ไกล จากเผชิญแรงขายทำกำไรที่สลับออกมาอย่างต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ยังปรับตัวขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่า ทำให้ Fund Flow ยังไม่รีบเข้ามาช่วงนี้ พร้อมให้ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของทั่วโลก และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ ส่วนบ้านเราให้รอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนที่จะออกมาในสัปดาห์นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,585 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

ACE     มูลค่าการซื้อขาย   1,506.98 ล้านบาท  ปิดที่   4.10 บาท เพิ่มขึ้น  0.02 บาท

CPALL   มูลค่าการซื้อขาย   1,435.39 ล้านบาท  ปิดที่  69.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.25 บาท

PTT     มูลค่าการซื้อขาย   1,319,24 ล้านบาท  ปิดที่  41.00 บาท เพิ่มขึ้น  0.75 บาท

BANPU   มูลค่าการซื้อขาย   1,141.82 ล้านบาท  ปิดที่  12.90 บาท เพิ่มขึ้น  0.50 บาท

SCC     มูลค่าการซื้อขาย   1,078.09 ล้านบาท  ปิดที่ 400.00 บาท เพิ่มขึ้น  5.00 บาท