XO วิ่งเกือบ 5% ลุ้นกำไรปี 64 โต 20-25% รับยอดขายพุ่ง โบรกฯ เคาะเป้า 15 บ.
XO วิ่งเกือบ 5% ลุ้นกำไรปี 64 โต 20-25% รับยอดขายพุ่ง โบรกฯ เคาะเป้า 15 บ. ล่าสุดอยู่ที่ 13.50 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.65% มูลค่าซื้อขาย 249.13 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO ล่าสุด ณ เวลา 14.59 น. อยู่ที่ 13.50 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4.65% สูงสุดที่ 13.70 บาท ต่ำสุดที่ 12.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 249.13 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้น XO ปรับตัวขึ้น คาดมาจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
โดย นายจิตติพร จันทรัช กรรมการ และกรรมการผู้จัดการ XO นำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในปี 2564 คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโต 10% จากลูกค้าเดิมที่สั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิจะเติบโต 20-25% ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับสูงถึง 40% ทั้งนี้ยอดขายของบริษัทฯ ยังคงเพิ่มขึ้นจากการที่อาหารไทยยังเป็นที่นิยมของคนต่างชาติ และเป็นที่ต้องการสำหรับตลาดโลก ส่งผลให้คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์จะมีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” XO ราคาเป้าหมาย 15 บาท/หุ้น คาดรายได้ไตรมาส 1/64 จะสูงที่สุดรายไตรมาสของบริษัท (รายได้สูงสุดไตรมาส 3/63 ที่ 345 ล้านบาท) ซึ่งเติบโตทั้งเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้จ่ายค่า listing fee เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมในประเทศแถบยุโรปเพิ่มขึ้น ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวในระดับสูงที่ 41-42% เนื่องจากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิด Economies of scale นอกจากนี้บริษัทได้ล็อกราคาวัถตุดิบไปจนถึงปลายปี 64 เพื่อรองรับการเติบโตของรายได้ ด้านอุปทานเรือขนส่งที่ขาดแคลนคาดว่าจะคลี่คลายไปทิศทางที่ดีขึ้น (ไตรมาส 4/63 กระทบรายได้บริษัทราว 3% จากปกติที่ระดับ 1%) เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
อีกทั้งปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 64 และ 65 จาก 317 ล้านบาท และ 361 ล้านบาท สู่ 344 ล้านบาท และ 375 ล้านบาท เติบโต 8% และ 9% ตามลำดับ คาดรายได้ปี 64 อยู่ที่ราว 1.38-1.42 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9-12% เมื่อเทียบจากปีก่อน ได้แรงหนุนจากการแพร่ระบาดของ COVID ในยุโรปที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้หลายประเทศประกาศ ล็อกดาวน์รอบ 2 นอกจากนี้บริษัทมีการจ่ายค่า Listing fee ในประเทศแถบยุโรปเพื่อให้สินค้าของบริษัทมีการกระจายได้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้หากกลยุทธ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จจะปรับใช้กับภูมิภาคอื่นเพิ่มเติม ด้านต้นทุนการผลิตบริษัทได้ล็อกราคาน้ำตาล กระเทียม และพริกไว้จนถึงปลายปี 64 ทำให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวในระดับ 41-42% ได้เช่นเดียวกับปี 2563 นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาตลาดกัญชงทำให้ในอนาคตอาจมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับกัญชงออกมาหนุนรายได้เพิ่มเติม