“ฉาย บุนนาค” แจงข่าว DSI พร้อมเอาผิดคดีปั่นหุ้น SLC ไม่เป็นความจริง
“ฉาย บุนนาค” ออกโรงแจงกรณีข่าวที่สื่อในเครือเนชั่นฯ ประโคมข่าวว่า DSI มีเอกสาร-พยานบุคคล พร้อมเอาผิดจากคดีปั่นหุ้น SLC หรือปัจจุบันคือ NEWS เผยเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เตรียมดำเนินคดีพนักงานใน DSI ที่เป็นผู้นำความลับทางราชการมาเปิดเผย-บุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2558 สื่อหลายสื่อในเครือเนชั่น ได้แก่ Website Nation Breaking News และวันที่ 16 กันยายน 2558 หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ หนังสือพิมพ์คมชัดลึก และหนังสือพิมพ์ The Nation ได้เสนอข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่มีตัวตนโดยมีข้อความทำนองเดียวกันว่าแหล่งข่าวจาก DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีปั่นหุ้น บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีกับ นายฉาย บุนนาค กับพวกว่าการสอบสวนมีพยานเอกสารและพยานบุคคลครบถ้วนแล้ว
โดยพบหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในชั้นสอบสวนคดีปั่นหุ้น 14 คดีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดไปแล้ว พนักงานสอบสวนมีมติให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 11 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีปั่นหุ้น ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้ถูกกล่าวหา 1 รายไม่รับหมายเรียกโดยมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าหลบหนีและไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ดีเอสไอจึงขอให้ศาลออกหมายจับแล้ว ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอีก 10 รายยังไม่พบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกแต่ได้ทำหนังสือขอเลื่อนนัดเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอจึงออกหมายเรียกซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งจะครบกำหนดภายในสัปดาห์นี้หากยังไม่เข้ารับทราบข้อหาพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินคดีข้อหาขัดขืนหมายเรียกอีก 1 ข้อหา
ทั้งนี้นายฉาย บุนนาค เปิดเผยว่า “ข้าพเจ้าเห็นว่าข้อมูลตามที่ปรากฏในข่าวนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ยุติ ยังไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานใหม่ใดๆตามที่เป็นข่าว อีกทั้งข้อมูลความเคลื่อนไหวในสำนวนคดี ถือเป็นข้อมูลที่เป็นความลับทางราชการ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ หรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้”
โดยที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักข่าวเนชั่น รวมถึง Website Nation หนังสือพิมพ์คมชัดลึก และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ย่อมไม่สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เขียนข่าวได้ หากมิได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ การที่เจ้าพนักงานดังกล่าวได้กระทำการโดยมิชอบด้วยหน้าที่ลักลอบนำข้อมูลความเคลื่อนไหวในสำนวนคดี ซึ่งถือเป็นความลับทางราชการ มาเปิดเผยแก่สื่อในเครือเนชั่น ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยมีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างเจ้าพนักงาน หรือมีการจ้างวานใช้เจ้าพนักงานดังกล่าวให้นำข้อมูลดังกล่าวมาให้ หรือเป็นการกระทำโดยมิชอบประการอื่นใด การกระทำดังกล่าวของเจ้าพนักงานนั้นย่อมเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานรู้หรืออาจรู้ความลับในราชการ กระทำการใดๆ อันมิชอบด้วยหน้าที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 164 และตัวบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของสำนักข่าวเนชั่นย่อมมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้การที่สื่อในเครือเนชั่นได้ร่วมกันลงข่าวดังกล่าวโดยมิใช่การแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต และมีเจตนากลั่นแกล้งใส่ความให้ข้าพเจ้าต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ยังถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 ซึ่งบริษัท เนชั่นฯ จะต้องรับผิดอีกกระทงความผิดด้วย
อนึ่งก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารในเครือเนชั่นมาแล้วหลายคดีและพนักงานสอบสวนมีคำสั่งฟ้อง แต่กลุ่มผู้บริหารเนชั่นกลับประวิงเวลาไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยังมีเจตนามากระทำผิดซ้ำอีก ซึ่งเป็นที่น่าละอายใจยิ่งนัก ในการนี้ข้าพเจ้าจะได้ปรึกษากับที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายกับเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษที่เป็นผู้นำความลับทางราชการมาเปิดเผยและบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 และดำเนินคดีกับบริษัท เนชั่นฯ และบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 ประกอบ มาตรา 86 และ มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 ต่อไป