หุ้นยุโรปปิดพุ่ง ขณะนักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันพฤหัสบดีนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.5% ปิด (16 ก.ย.) ที่ 361.87 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,645.84 จุด เพิ่มขึ้น 76.47 จุด หรือ +1.67%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,227.21 จุด เพิ่มขึ้น 39.08 จุด หรือ +0.38% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,229.21 จุด เพิ่มขึ้น 91.61 จุด หรือ +1.49%
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมเฟดในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่นักลงทุนบางส่วนคาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลดลง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะทรงตัวในเดือนส.ค.
หุ้น SABMiller เอสเอบีมิลเลอร์ พุ่งขึ้น 20% หลังจากมีรายงานว่า บริษัท Anheuser-Busch InBev NV ยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการ, หุ้นริชมอนท์ ซึ่งผู้ผลิตเครื่องประดับรายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 6.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้นในตลาดญี่ปุ่นและยุโรป ขณะที่หุ้นแอร์เมส อินเตอร์เนชันแนล ปรับขึ้น 3.8% และหุ้นอินดิเท็กซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง Zara พุ่งขึ้น 5.9% ขานรับยอดขายที่ดีเกินคาดของบริษัท
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 0.1% ในเดือนส.ค. ลดลงจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 0.2% โดยการปรับลดอัตราเงินเฟ้อของเดือนส.ค. เกิดจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำดังกล่าวจะทำให้ธนาคารกลางยุโรปขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันให้เงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของทางธนาคารกลาง