KK ชนซิลลิ่ง! รับ ครม.เพิ่มสิทธิ “เราชนะ” หนุนยอดขายปี 64 โตเข้าเป้า 20%
KK ชนซิลลิ่ง! รับ ครม.เพิ่มสิทธิ “เราชนะ” หนุนยอดขายปี 64 โตเข้าเป้า 20%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ KK ณ เวลา 15.21 น. อยู่ที่ระดับ 3.20 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 28% สูงสุดที่ระดับ 3.24 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108.55 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น KK ปรับตัวขึ้นแบบกระโดดในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (20 เม.ย.64) มีมติเห็นชอบให้ขยายกลุ่มเป้าหมายและกรอบวงเงินของโครงการเราชนะตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เสนอ จากเดิมที่มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 31.1 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เพิ่มเป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวน 33.5 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 213,243 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,042 ล้านบาท
อีกทั้งขยายเวลาใช้สิทธิวงเงินจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.64 ออกไปเป็นใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิ.ย.64 พร้อมทั้งให้กรมบัญชีกลางอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้า และบริการที่เข้าร่วมโครงการตามที่ได้รับสิทธิ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ KK เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 64 เติบโตขึ้นราว 20% จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 973 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1/64 ได้รับอานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจากการเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ และโครงการเราชนะ ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนได้มากขึ้น สนับสนุนยอดขายในช่วงไตรมาส 1/64 มีทิศทางที่ดี และในพื้นที่ภาคใต้ที่บริษัทมีสาขาร้านค้าปลีก ทั้งสงขลา พัทลุง และสตูล ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ การดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นไปตามปกติ
“เศรษฐกิจในปีนี้แม้ว่าจะดีขึ้นแต่ก็ยังมีความท้าทายที่เราต้องรักษายอดขายไม่ไห้ตกลง และพยายามทำให้โตขึ้น ก็ต้องบอกว่าในไตรมาสแรกได้โครงการภาครัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นทำให้ยอดขายมีทิศทางที่ดี และก็จะมีการทำการตลาดต่างๆ ขยายสาขาใหม่ไนช่วงปลายเม.ย.หรือต้นพ.ค.นี้ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ช่วยดันยอดขายให้ดีขึ้นได้” นายกวิศพงษ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทวางแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มในปี 64 จำนวน 3 สาขา ซึ่งจะเน้นขยายไปใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่หลักในการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ก่อตั้ง บริษัทมีความรู้และประสบการณ์ในการทำการตลาดในพื้นที่ดังกล่าวมาอย่างยาวนาน และมีฐานลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูง และยังมีโอกาสอีกมากในเจาะขยายเข้าไปในชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
ดังนั้น ในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขาทั้งสิ้น 31 สาขา จากสิ้นปีก่อนที่ 28 สาขา ได้แก่ สงขลา 25 สาขา พัทลุง 2 สาขา และสตูล 1 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทยังมองโอกาสการขยายธุรกิจใหม่เพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างการเจรจาทำดีล M&A ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่สามารถนำมาจำหน่ายในร้านค้าของบริษัทได้ ซึ่งเป็นธุรกิจเชื่อมโยงกับธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันอยู่ เพื่อนำมาต่อยอดการเติบโตในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบการให้บริการออนไลน์ต่อเนื่อง ในแอปพลิเคชั่นของบริษัท ทั้งการพัฒนาระบบบัตรสมาชิกออนไลน์ การพัฒนาบริการสั่งสินค้าผ่านทางออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกของลูกค้าได้มากขึ้น และช่วยเป็นช่องทางในการเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้า