PPS ชนซิลลิ่ง-นิวไฮรอบ 1 ปี 7 เดือน! ลุ้นเทิร์นอะราวด์ หลังตุนแบ็กล็อก 562 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  หรือ PPS ณ เวลา 15.39 น. อยู่ที่ระดับ 0.70 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 29.63% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 83.13 ล้านบาท ราคาหุ้นวิงชนซิลลิ่งของวันที่ระดับ 0.70 บาท และราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 1 ปี 7 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 0.70 บาท เมื่อวันที่ 17 ก.ย.62

โดยก่อนหน้านี้นายพงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PPS เปิดเผยว่าแนวโน้มการดำเนินงานปี 2564 (ปีนี้) บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ที่ 500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน และตั้งเป้ามีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 24% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 21.93% ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) อยู่ที่ 562.96 ล้านบาท และจะรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 300-400 ล้านบาท

นอกจากนี้ PPS ยังเตรียมความพร้อมยื่นเสนองานภาครัฐที่จะออกมาตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมี 4 โครงการที่ PPS คาดหมายว่าจะได้รับงาน คือ 1. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประกาศประกวดราคาสายทางเพิ่มเติม 2. โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ที่อยู่ระหว่างรอ ร.ฟ.ท.ลงนามในสัญญาก่อสร้างเพิ่มเติม 3. โครงการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่ขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างเริ่มกระบวนการคัดเลือกเอกชนใหม่ และ 4. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าผลประกอบการในปี 2563 บริษัทมีผลขาดทุน 26.1 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอัตราขาดทุนสูงสุดนับตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อปี 2555 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเหลือ 21.93% ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมาอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทได้ปรับลดลงต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญเป็นเพราะการรับงานที่ปรึกษาควบคุมงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่มาก ประกอบกับ PPS ไม่มีการรับงานที่หลากหลาย เมื่อโครงการสุวรรณภูมิฯ ล่าช้า จึงส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นของทั้งบริษัท

ทั้งนี้หาก PPS จะพลิกกลับมามีกำไรได้นั้น ยังมีปัจจัยสำคัญ 3 ประเด็น คือ

1.โครงการแหลมยามู จ.ภูเก็ต ต้องประสบผลสำเร็จ

2.งานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 จะมีความล่าช้าอีกหรือไม่ และ

3.การบริหารกระแสเงินสดให้สามารถครอบคลุมได้ทั้งปี 2564

ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่า PPS จะสามารถบริหารจัดการได้ ส่วนการบริหารจัดการหนี้นั้น เบื้องต้น PPS มีแนวคิดที่จะทำการรีไฟแนนซ์ แต่จะไม่มีแผนการออกหุ้นกู้เพิ่มเติม เพราะยังมีภาระหุ้นกู้เดิมอยู่