FTE บวกแรง 10% หลังคว้างานใหม่ต่อเนื่อง! ปักธงรายได้ปีนี้ทะลุ 1 พันลบ.
FTE บวกแรง 10% หลังคว้างานใหม่ต่อเนื่อง! ปักธงรายได้ปีนี้โตทะลุ 1 พันลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ FTE ณ เวลา 15.24 น. อยู่ที่ระดับ 2.00 บาท บวก 0.19 บาท หรือ 10.50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 65.17 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 14 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 2.00 บาท เมื่อวันที่ 6 ก.พ.63 คาดนักลงทุนเข้าเก็งกำไรหลังบริษัทคว้างานใหม่ต่อเนื่อง
ล่าสุด FTEได้รับใบสั่งซื้อและหนังสือสั่งจ้างสำหรับงานโครงการใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ 1. งานจัดหาและติดตั้งระบบดับเพลิงในพื้นที่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมชาติ โครงการติดตั้งระบบดับเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิต สาขาทุ่งสง จาก JOINT VENTURE OF SINOHYDRO AND SEPCO III
2.งานจำหน่ายเครื่องสูบน้ำดับเพลิงขนาด 5000 GPM โครงการจำหน่ายเครื่องสูบน้ำดับเพลิง จากบริษัท เอเออี เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และ 3. งานจัดหาและติดตั้งหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ โครงการ Automatic Sprinkler system จากบริษัท ระยองวิศวกรรมและซ่อมบำรุง จำกัด รวมมูลค่างานทั้งสิ้น 78,275,000 บาท
โดยก่อนหน้านี้นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ FTE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 2564 อยู่ที่ 1,084 ล้านบาท และตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10% เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 914 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 61 ล้านบาท
ทั้งนี้ยอดขายที่เติบโตในปีนี้จะมาจากงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มูลค่าประมาณ 140 ล้านบาท, งานโครงการของภาครัฐ ประมาณ 166 ล้านบาท, งานภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 300 ล้านบาท, งานโครงการ Oil&Gas และปิโตรเคมีประมาณ 68 ล้านบาท, งานอาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัย 240 ล้านบาท, งานโครงการศูนย์ข้อมูล (Data Center & Telco) 80 ล้านบาท และงาน Hospitality (HoReCa) ประมาณ 90 ล้านบาท
โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (แบ็กล็อก) อยู่ที่ 450 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ภายในปีนี้ทั้งหมด แบ่งเป็น งานโครงการและงานของกฟผ.ประมาณ 380 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงานเทรดดิ้งประมาณ 70 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการติดตามงานที่อยู่ในแผนอีก 1,200 ล้านบาท รวมทั้งต้องหางานประมูลใหม่เพิ่มอีก 274 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามเป้า
“บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้จะเป็นไปตามเป้า เนื่องจากบริษัทเป็นผู้นำทางการตลาดอุปกรณ์ดับเพลิงครบวงจร ซึ่งพบว่ายังมีความต้องการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามความเสี่ยงในปีนี้ คือ ความล่าช้าของงานภาครัฐ” นายทักษิณ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น อาทิ บริษัทจะรักษาฐานลูกค้าเดิม โดยเฉพาะ กฟผ. และกลุ่มผู้รับเหมา, บริษัทจะรักษายอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาด รวมทั้งหาสินค้าใหม่ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดเข้ามาเสริม, การเข้าถึงช่องทางออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังโฟกัสไปยังกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น เพราะหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เชื่อว่ากลุ่มนี้จะมีการฟื้นตัวและเติบโตได้
ส่วนกรณีค่าใช้จ่ายที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น โดยในปี 2563 บริษัทมีต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร 145.62 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายการค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ไม่มีตัวตนโปรแกรม ERP ค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน ที่บริษัทรับรู้ตามหนี้สินสัญญาเช่า ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 16 เรื่องสัญญาเช่า กำหนดให้ผู้เช่ารับรู้สินทรัพย์และหนี้สินสำหรับสัญญาเช่าทุกรายการที่มีระยะเวลาในการเช่ามากกว่า 12 เดือน ซึ่งในปีนี้บริษัทจะพยายามเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น เพื่อให้กำไรเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้