TRC พุ่งกระฉูด 23% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้พุ่ง 5 พันล้าน แบ็กล็อกแน่น 9.2 พันล้าน

TRC พุ่งกระฉูด 23% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้พุ่ง 5 พันล้าน แบ็กล็อกแน่น 9.2 พันล้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC  ณ เวลา 15.03 น. อยู่ที่ระดับ 0.16 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 23.08% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 21.53 ล้านบาท

โดยนายภาสิต ลี้สกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TRC เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ 4,500-5,000 ล้านบาท จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 3,196.04 ล้านบาท  โดยรายได้หลักยังมาจากงานก่อสร้างที่มีสัดส่วนมากสุด ซึ่งในปี 2563 มีสัดส่วนอยู่ที่ 97.56%

ทั้งนี้ปัจจุบัน TSC มีงานที่รอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) 9,297.21 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายในปีนี้จะได้งานเพิ่มอีก 3,000-4,000 ล้านบาท จากการเข้าร่วมประกวดราคางานขนาดใหญ่มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท เช่น งานติดตั้งเครื่องจักรก่อสร้างและดำเนินระบบของสวทช. มูลค่า 3,000 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเปิดประกวดราคาในเดือนเมษายนนี้ / โครงการท่อส่งก๊าซของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ประมาณ 3 งานรวม 3,000 ล้านบาท/ งานก่อสร้างของกรมทางหลวง ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ TRC ประมาณ 2,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงานระบบท่อส่งน้ำและอื่น ๆ   ซึ่งคาดว่าจะทำให้แบ็กล็อกในปีนี้เพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท

สำหรับงบลงทุนในปี 2564 จะเป็นการลงทุนด้านระบบท่อน้ำประปาเพื่อให้ได้น้ำที่มีคุณภาพ เนื่องจาก TRC ได้เข้าร่วมแข่งขันประกวดราคาโครงการจำหน่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน 2 โครงการ ราว 30 ล้านบาท และคาดว่าจะรับทราบผลประกวดราคาเร็ว ๆ นี้ และยังมีโครงการเกี่ยวกับการปรับปรุงคุณภาพน้ำและจำหน่ายน้ำให้กับลูกค้า ซึ่งมีมูลค่างานประมาณ 100 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องการรับงาน

นายภาสิต กล่าวเพิ่มเติมถึงปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานปี 2563 ว่า เป็นเพราะ TRC ประสบปัญหาในโครงการก่อสร้างคลังสินค้าอัจฉริยะ ที่เกิดการเจาะสำรวจพบก้อนหินขนาดใหญ่รวมกว่า 700 ตัน ซึ่งไม่ปรากฎในแบบก่อสร้างในขั้นตอนการประกวดราคา ส่งผลให้ประมาณการต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้พบว่าชั้นดินข้างใต้พื้นที่ก่อสร้างยังเป็นดินอ่อน ทำให้การทำงานฐานรากและงานตอกเสาเข็มดำเนินการได้ช้า และต้องใช้ความระมัดระวังสูง เนื่องจากเป็นการก่อสร้างคลังเก็บสินค้าอัตโนมัติขนาดใหญ่ มีความสูง 40 เมตร การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้ ค่าแรง ค่าวัสดุและต้นทุนอื่น ๆ สูงขึ้นตามมา รวมถึงกระทบการทำงานในขั้นตอนอื่น ๆ ตามมา จน TRC ต้องขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไป ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกของปี 2563 TRC ขาดทุนขั้นต้น 261.76 ล้านบาท และกระทบต่อผลการดำเนินงานทั้งปีให้ขาดทุนสุทธิรวม 447.11 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามขณะนี้ TRC อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ว่าจ้างว่าจะมีข้อตกลงร่วมกันอย่างไรต่อปัญหาที่ไม่คาดคิดดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างคลังสินค้าอัจฉริยะกำลังจะแล้วเสร็จภายในต้นเดือนพฤษภาคมนี้  ขณะเดียวกัน TRC ยังอยู่ระหว่างเร่งแก้ไขกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขึ้นเครื่องหมาย C หุ้น TRC จากกรณีที่ TRC มีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้วสำหรับงบการเงินปี 2563 ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะการเพิ่มขึ้นของต้นทุนโครงการก่อสร้างที่คาดไม่ถึงมากกว่าที่ประมาณการไว้ / การขาดความต่อเนื่องในการทำงาน เนื่องจากความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ และการได้รับใบอนุญาตทำงาน / โครงการก่อสร้างมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ

Back to top button