GRAMMY คาดปีนี้ขาดทุนลดลงจาก 2.3 พันลบ. ในปีก่อน ฟุ้งปี 59 มีลุ้นพลิกกำไร

GRAMMY คาดปีนี้ขาดทุนลดลงจาก 2.3 พันลบ. ในปีก่อน หลังมีการขายหน่วยลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก มองว่ารายได้ปีนี้จะใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.02 หมื่นลบ. เผยปี 59 มีลุ้นพลิกกำไร


นางจิราภรณ์ รุ่งศรีทอง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้จะขาดทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากปี 57 ที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน 2.31 พันล้านบาท ซึ่งการขาดทุนที่ลดลงมาจากบริษัทมีการขายหน่วยลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเพย์ทีวี และธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนในการบริหารงานลดลง และรับรู้รายได้พิเศษเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 1/58 และไตรมาส 2/58 ที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานในปีนี้ฟื้นตัวขึ้น

อย่างไรก็ตาม การขายหน่วยลงทุนของธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักออกไปยังส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท โดยในปีนี้คาดว่ารายได้จะใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.02 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีรายได้ที่เติบโตได้จากธุรกิจเพลง และธุรกิจทีวีดิจิตอลที่ยังมีการเติบโตอยู่ ซึ่งเป็น 2 ธุรกิจหลักที่มี สัดส่วนรายได้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทแบ่งเป็น ธุรกิจเพลง 30% ทีวีดิจิตอล 22% มีเดีย 17% ทีวีดาวเทียม 11% อื่นๆ 20%

“ปีนี้การขาดทุนจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกไปแล้ว และช่วงที่เหลือของปีนี้ก็คงไม่ขายอะไรอีกแล้ว และก็ไม่มีการ Book กำไรพิเศษอะไรในช่วงที่เหลือ ตอนนี้ธุรกิจหลักก็มีเพลง และทีวีดิจิตอล ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่บริษัทเป็นอย่างมาก มองว่าปีที่แล้วผลการดำเนินเป็น Bottom และมีแนวโน้มดีขึ้น และปีหน้าก็มีโอกาสมีกำไรได้ หากการเปลี่ยนถ่ายจากทีวีอนาล็อคไปสู่ทีวีดิจิตอลสมบูรณ์แบบก็จะทำให้ธุรกิจทีวีดิจิตอลเติบโตอย่างโดดเด่น”นางจิราภรณ์ กล่าว

สำหรับช่องทีวีดิจิตอลของบริษัทมี 2 ช่อง ได้แก่ ช่อง ONE และ ช่อง GMM 25 โดยอัตราการใช้โฆษณาของ 2 ช่องในปัจจุบันเกือบ 100% ซึ่งสะท้อนได้ว่าได้รับความนิยมมากขึ้น และส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาเข้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้เรทติ้งขยับขึ้น โดยช่อง One ณ สิ้นเดือน ก.ค. จากการจัดอันดับของ Nielsen อยู่ที่อันดับ 6 หากรวมช่อง 3 และช่อง 7 แต่ถ้าไม่รวมอยู่ที่อันดับ 4 ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายอันดับเรทติ้งสิ้นปี 58 ของช่อง One ให้ติด 1 ใน 3 ส่วน GMM 25 อยู่ที่อันดับ 25 หากรวมช่อง 3 และช่อง 7 แต่ถ้าไม่รวมอยู่ที่ดันดับ 23 โดยบริษัทวางเป้าหมายอันดับเรทติ้งสิ้นปี 58 ของช่อง GMM 25 ให้ติด 10-15

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันที่อันดับเรทติ้งของช่อง GMM 25 อยู่ในอันดับท้าย เป็นผลมาจากสาเหตุกลุ่มเป้าหมายของช่องได้เจาะกลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ติดตามผ่านยูทูบ สมาร์ทโฟน และ ช่องทางออนไลน์อื่นๆ โดยการจัดอันดับเรทติ้งในปัจจุบันไม่ครอบคลุมช่องทางดังกล่าว

“หากการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิตอลมีความสมบูรณ์แล้ว เรามั่นใจว่า 2 ช่องที่เรามีจะยืนหยัดได้อย่างมั่นคง จากตอนแรกที่เราไม่รู้ว่าจะเติบโตไปทางไหน และผู้ประกอบการที่จะมาลงโฆษณาก็ยังต้องรอดูเรทติ้งของช่องก่อน แต่หลังจากละครบัลลังเมฆออนแอร์ไปแล้วเรทติ้งแซงช่องทีวีดิจิตอลอื่น ไม่รวมช่อง 3 และช่อง 7 ทำให้เรามั่นใจว่าเรทติ้งเราไม่ด้อยกว่าช่องอื่น และ แนวโน้มการจองโฆษณาในช่วงที่เหลือของปีก็เข้ามาเยอะแล้ว แต่เราก็บริหารไม่ให้เต็ม 100% เพื่อให้มีรูมเหลือเพื่อการขายในรูปแบบอื่นๆ เพราะตอนนี้เรามีขายรูปแบบมาก”นางจิราภรณ์ กล่าว

Back to top button