“ชิค รีพับบลิค” ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 360 ล้านหุ้น จ่อเทรด SET ระดมทุนขยายธุรกิจ
"ชิค รีพับบลิค" ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 360 ล้านหุ้น จ่อเทรด SET ระดมทุนขยายธุรกิจ ชูนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) จำนวนไม่เกิน 360 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
โดยวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการขยายสาขาแห่งใหม่, ชำระคืนเงินกู้ยืม และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท
อนึ่ง ชิค รีพับบลิค ประกอบธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน และที่นอนและเครื่องนอนอย่างครบวงจร (One Stop Shopping) ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ (Stand Alone) ภายใต้สินค้าแบรนด์หลัก (House Brand) ของบริษัท ได้แก่ “ชิค รีพับบลิค (CHIC Republic)” “รีน่า เฮย์ (Rina Hey)” และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “แอชลีย์ (Ashley)” และสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ผ่านช่องทางหน้าร้านค้าของบริษัทฯ และช่องทางออนไลน์
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 6 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาภายในประเทศจำนวน 5 สาขา ได้แก่ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม สาขาพัทยา สาขาบางนา สาขาราชพฤกษ์ สาขารามอินทรา และสาขาต่างประเทศจำนวน 1 สาขา ได้แก่ สาขากัมพูชา
โดยบริษัทมี Chic Republic Co., Ltd. เป็นบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านสำหรับสาขากัมพูชา โดยจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่ประเทศกัมพูชา ด้วยทุนจดทะเบียน 20,000,000 เรียลกัมพูชา
นอกจากนี้ บริษัทมีโครงการในอนาคต คือ โครงการลงทุนขยายสาขาแห่งใหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ได้แก่ งบประมาณลงทุนในสาขาแห่งใหม่ที่จังหวัดอุดรธานีไม่เกิน 196 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ พื้นที่อาคารประมาณ 9,700 ตารางเมตร และมีพื้นที่ขายประมาณ 6,500 ตารางเมตร มีร้านค้าเช่าพื้นที่ภายในสาขาประมาณ 4 ร้านค้า ปัจจุบันปรับปรุงพื้นที่ดินเพื่อเตรียมการก่อสร้างและได้รับใบอนุญาตการก่อสร้าง(อ.1) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะดำเนินการสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 66-67
รวมถึงการปรับปรุงช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าผ่าน Website ของบริษัท หลังจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของช่องทางการขายแบบออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ที่ส่งผลให้พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จึงมีความคิดที่จะพัฒนา 3 website หลัก ได้แก่ https://www.chicrepublicthai.com/, https://www.rinahey.com/th/ และ https://store.ashleyfurniturehomestore.co.th/ ให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านทาง website คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 ล้านบาท และคาดว่าจะดำเนินการพัฒนาแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานในช่วงไตรมาส 2/64
โดย ณ วันที่ 7 เม.ย.64 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 680 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้น 1,360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนที่ออกและชำระแล้วจำนวน 500 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้น 1,000 ล้านหุ้น ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 360 ล้านหุ้น บริษัทฯ จะมีทุนที่ออกและชำระแล้วเต็มจำนวน
สำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ กลุ่มครอบครัวนายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ ถือหุ้น 1,000 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 73.53%
ด้านผลประกอบการปี 61-63 บริษัทมีรายได้รวม เท่ากับ 539.72 ล้านบาท 781.27 ล้านบาท และ 707.71 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้รวมในงวดปี 63 ลดลง 73.56 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.42% จากงวดปี 62 สาเหตุหลักมาจากมาตรการณ์เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ส่งผลให้บริษัทต้องปิดร้านค้าชั่วคราวทั้ง 4 สาขาในกรุงเทพมหานคร ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงในภาพรวม
ขณะที่กำไรสุทธิในงวดปี 61-63 เท่ากับ 20.74 ล้านบาท 54.44 ล้านบาท และ 34.15 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 3.84%, 6.97% และ 4.83% ของรายได้รวม ตามลำดับ
โดย ณ สิ้นงวดปี 63 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,869.77 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,263.07 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 606.70 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลโดยพิจารณาจากงบเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย (ถ้ามี) และจะต้องไม่เกินกำไรสะสมที่ปรากฎอยู่ในงบเฉพาะกิจการ