“กนง.” เล็งปรับ GDP ปี 64 ใหม่ หลัง “โควิด” ระลอก 3 กระทบการฟื้นตัวศก.

"กนง." เล็งปรับ GDP ปี 64 ใหม่ หลัง "โควิด" ระลอก 3 กระทบการฟื้นตัวศก. พร้อมตั้ง 3 สมมติฐานการฉีดวัคซีนต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ


นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ระบุว่า จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 นี้ มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อจากนี้ไป ซึ่ง กนง.จะมีการพิจารณาปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ไทยในปีนี้อีกครั้ง ในการประชุม กนง.รอบหน้า (23 มิ.ย.) จากปัจจุบันที่ได้ประมาณการ GDP ปี 2564 ไว้ว่าจะขยายตัวได้ 3%

ทั้งนี้ เห็นว่าการจัดหาวัคซีนต้านโควิดจะเป็นพระเอกของนโยบายเศรษฐกิจในปีนี้ ตามมาด้วยมาตรการด้านการเงินการคลังที่จะมาเป็นตัวช่วยในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ในระหว่างที่ประเทศยังไม่มีภูมิคุ้มกันหมู่จากการรับวัคซีนโควิด ซึ่งหากการฉีดวัคซีนสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเพียงพอ ก็จะทำให้ความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเข้าไปเยียวยาผลกระทบมีน้อยลง และน่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตามแผน Sandbox ได้เร็วขึ้น และทันต่อฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565

นอกจากนี้ การกระจายวัคซีนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จะเป็นตัวช่วยทำให้แรงงาน และผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ภาคท่องเที่ยว สามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นด้วย ดังนั้นวัคซีนต้านไวรัสโควิดจึงถือเป็นพระเอกสำหรับนโยบายเศรษฐกิจไทยในปีนี้

ด้านเลขานุการ กนง. กล่าวว่า ได้มีการจัดทำสมมติฐานไว้ 3 กรณี ในเรื่องการฉีดวัคซีนโควิดเร็วขึ้นที่จะมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยได้ 3-5.7% ในช่วงปีนี้และปีหน้า ดังนี้

โดยในกรณี 1 หากสามารถจัดหาและกระจายวัคซีนเพิ่มเติมได้ 100 ล้านโดสได้ในปี 64 ซึ่งจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 65 นั้น คาดว่า GDP ในปีนี้จะเติบโตได้ 2% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 1.2 ล้านคน ส่วนปี 65 คาด GDP จะโตได้ 4.7% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15 ล้านคน

กรณีที่ 2 หากสามารถจัดหาและกระจายวัคซีนได้ตามแผนเดิมคือ 64.6 ล้านโดสในปี 64 จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในไตรมาส 3 ของปี 65 นั้น คาดว่า GDP ปีนี้จะเติบโตได้ 1.5% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 1 ล้านคน ส่วนปี 65 คาด GDP จะโตได้ 2.8% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 12 ล้านคน

กรณีที่ 3 หากสามารถจัดหาและกระจายวัคซีนได้ช้าและน้อยกว่าแผนเดิม จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในไตรมาส 4 ของปี 65 นั้น คาดว่า คาดว่า GDP ปีนี้จะเติบโตได้ 1% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 0.8 ล้านคน ส่วนปี 65 คาด GDP จะโตได้ 1.1% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 8 ล้านคน

ทั้งนี้ สมมติฐานดังกล่าวยังไม่รวมมาตรการของภาครัฐที่อาจจะออกมาเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยลดทอนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจได้

Back to top button