โอ้โห! SCB-KTB ฉุดดัชนีกว่า 2%
SCB-KTB-TISCO กอดคอกันปรับตัวลง รับผลกระทบจากกรณีประเด็นข่าวของ SSI ที่ต้องปิดโรงงานถลุงเหล็กในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีผลต่อเจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้รายใหญ่ 3 ราย SCB-KTB -TISCO
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ณ เวลา 10.06 น. ราคาอยู่ที่ 139.50 บาท ลบ 4.50 บาท หรือ 3.12% สูงสุดที่ 140.50 บาท ต่ำสุดที่ 138.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 321.89 ล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้นธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ราคาอยู่ที่ 17.80 บาท ลบ 0.40 บาท หรือ 2.20% สูงสุดที่ 17.80 บาท ต่ำสุดที่ 17.60 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 465.46 ล้านบาท
อีกทั้งราคาหุ้นบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ราคาอยู่ที่ 36.25 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 1.36% สูงสุดที่ 36.50 บาท ต่ำสุดที่ 36 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 10.26 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.46%
โดยราคาหุ้น SCB-KTB ปรับตัวลงแรงในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อดัชนีค่อนข้างมาก ซึ่ง SCB ฉุดดัชนี 1.80 จุด ส่วน KTB ฉุดดัชนี 0.60 จุด รวมเป็น 2.40 จุด
ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้น SCB-KTB-TISCO ปรับตัวลงแรง สืบเนื่องมาจากประเด็นข่าวของ SSI ที่ต้องปิดโรงงานถลุงเหล็กในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีผลต่อเจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้รายใหญ่ 3 ราย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ,ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB และบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO
ด้าน บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ก.ย.) ว่า กลุ่มธนาคารรับผลกรณี SSI และบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค (SSI UK) ไม่สามารถชำระหนี้ได้จะทำให้ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ต้องกันสำรองเพิ่ม 1.86 หมื่นล้านบาท ส่งผลกระทบต่อคาดการณ์กำไร TISCO ปี 58 มากที่สุดถึง 32% และกระทบคาดการณ์กำไร KTB และ SCB ปีนี้ 22% และ 13% ตามลำดับ
ขณะที่ บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ (21 ก.ย.) TISCO,SCB,KTB เตรียมตั้งสำรองพิเศษในไตรมาส 3/58 จากที่ SSI ประกาศหยุดผลิตเหล็กจากโรงถลุงในอังกฤษชั่วคราวตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและฐานะการเงินของกลุ่มบริษัท แม้ว่าจะได้มีการตั้งสำรองไปบางส่วนแล้วก็ตาม