KTB ตั้งสำรองหนี้ SSI เพิ่มอีกราว 9 พันลบ.
KTB ตั้งสำรองหนี้ SSI เพิ่มอีกราว 9 พันลบ.โดยการตั้งสำรองเพิ่มดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3/2558 ประมาณ 6 พันลบ.
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ระบุว่า ตามที่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บจ. สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค (“บริษัทย่อยในประเทศอังกฤษ”) ได้ตัดสินใจหยุดการผลิตชั่วคราว ในการนี้บมจ.ธนาคารกรุงไทย (“ธนาคาร”) ในฐานะที่เป็นสถาบันการเงินหลักที่ร่วมสนับสนุนสินเชื่อให้แก่บริษัทและบริษัทย่อยในประเทศอังกฤษ อยู่ระหว่างการดำเนินการร่วมกับธนาคารเจ้าหนี้ทั้งหมดสำหรับขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ธนาคารได้มียอดหนี้รวมแก่บริษัทและบริษัทย่อยในประเทศอังกฤษ รวม 22,908 ล้านบาท โดย ณ 30 มิถุนายน 2558 ธนาคารได้มีการตั้งสำรองสำหรับยอดหนี้ที่ให้แก่บริษัทย่อยในประเทศอังกฤษ ครบถ้วนเต็มจำนวน
โดยมีสมมติฐานที่ว่าสามารถใช้เครื่องจักรเป็นหลักประกันได้โดยใช้มูลค่าตามราคาตลาด อย่างไรก็ดีเมื่อบริษัทย่อยในประเทศอังกฤษ หยุดดำเนินการชั่วคราว ธนาคารจึงพิจารณาตั้งสำรองเพิ่มเติมโดยมีสมมติฐานว่าหลักประกันที่มีอยู่ถูกตีมูลค่าเป็นศูนย์
ขณะที่บริษัทฯ ในประเทศไทยจะถูกตั้งสำรองเพิ่มขึ้นด้วยเพื่อสะท้อนภาระในฐานะผู้ค้ำประกันบริษัทย่อยที่หยุดการผลิตชั่วคราว และธนาคารได้มีการตั้งสำรองสำหรับยอดหนี้สุทธิของบริษัทและบริษัทย่อยในประเทศอังกฤษ ไปแล้วร้อยละ 54 โดยธนาคารมีภาระการกันสำรองเพิ่มเติมจำนวนประมาณ 9,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารรักษาระดับสำรองทั่วไป และสำรองส่วนเกิน ให้อยู่ในระดับมากกว่าระดับที่เพียงพออยู่เสมอ ซึ่งจะสามารถโอนเป็นสำรองพึงกันสำหรับบริษัทและบริษัทย่อยในประเทศอังกฤษได้
อย่างไรก็ดี ในกรณีนี้ จะส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ลดลงจากร้อยละ 124 ณ 30 มิถุนายน 2558 เป็นร้อยละ 92 ดังนั้น ในไตรมาสที่ 3/2558 ธนาคารจะพิจารณาตั้งสำรองทั่วไปเพิ่มเติมเพื่อรักษาระดับ Coverage Ratio ให้ไม่ตํ่ากว่า ร้อยละ 100 ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ความระมัดระวังต่อไป โดยการตั้งสำรองเพิ่มดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 3/2558 ประมาณ 6,000 ล้านบาท