ดอลล์แข็งค่ารับความหวังเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1190 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1351 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5496 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5553 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.60 เยน จาก 119.83 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9710 ฟรังก์ จาก 0.9642 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7136 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7218 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่ง หลังจากตลาดมีกระแสคาดการณ์มากขึ้นเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาสนับสนุนการเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขายังคงหวังว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และคาดการณ์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้

ด้านนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ก็ให้สัมภาษณ์ว่า ยังคงมีโอกาสที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนดอลลาร์สหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะที่มีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินในปีนี้ เจ้าหน้าที่จาก ECB กลับระบุถึงโอกาสที่ ECB จะยังคงใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งกดดันสกุลเงินยูโรให้ปรับตัวลง

นายปีเตอร์ แพรท หัวหน้านักวิเคราะห์ของ ECB กล่าวว่า ECB มีความพร้อมที่จะขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากมีความจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้เงินเฟ้ออ่อนตัวมากจนเกินไป ขณะเดียวกัน เขาได้กล่าวปกป้องการที่ ECB คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยระบุว่ามีความจำเป็นเนื่องจากเป็นการรับมือกับความอ่อนแอของเศรษฐกิจยุโรปและเศรษฐกิจโลก

Back to top button