NWR บวก 6% หลังประกาศงบฯ ไตรมาส 1 ดีกว่าคาด กำไรโต 4 เท่าตัว
NWR บวก 6% หลังประกาศงบฯ ไตรมาส 1 ดีกว่าคาด กำไรโต 4 เท่าตัว ล่าสุดอยู่ที่ 0.89 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 5.95% มูลค่าซื้อขาย 45.09 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR ล่าสุด ณ เวลา 11.53 น. อยู่ที่ 0.89 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 5.95% สูงสุดที่ 0.90 บาท ต่ำสุดที่ 0.84 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 45.09 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น NWR ปรับตัวขึ้น หลังรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/64 มีกำไร 52.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 406% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีกำไร 10.31 ล้านบาท ดีกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น NWR เนื่องจากคาดว่าบริษัทจะมีการประกาศข่าวดีเรื่อง การได้รับงานก่อสร้างใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
พร้อมปรับราคาพื้นฐานใหม่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 0.97 บาท ประเมินด้วย Forward P/BV ปี 64 ที่ 0.8 เท่า หรือเทียบเท่ากับ P/E ปี 64 ที่ 20.4 เท่า พร้อมคาดการณ์กำไรไตรมาส 1/64 สดใสเป็น 23 ล้านบาท ดีกว่าเมื่อเทียบจากปีก่อนและเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน แต่มีสมมุติฐานไม่มีรายการพิเศษ เทียบกับปีก่อนและ q-o-q หากไม่นับรายการพิเศษเป็น -18 และ -171 ล้านบาท (ฐานไตรมาส 4/63 มีการตั้งสำรองด้อยค่ามาก) ตามลำดับ ก็แสดงว่ากำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) ดีขึ้น
โดยแรงผลักดันสำคัญมาจากรายได้ที่สูงเป็น 3.2 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 20% เทียบจากไตรมาสก่อน) ด้านอัตรากำไรขั้นอยู่ในเกณฑ์ดีเป็น 8.3% เทียบกับ เมื่อเทียบจากปีก่อนและ เทียบจากไตรมาสก่อน ที่ 9.2% และ 0.2% ตามลำดับ สำหรับสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้อยู่ในเกณฑ์ต่ำเป็น 6% ซึ่งฐานเปรียบเทียบรายได้ไตรมาสนี้อยู่ในเกณฑ์ที่สูง ภาพรวมคือ ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาฯไปได้ดี แต่ผลิตภัณฑ์คอนกรีต precast ชะลอลงบ้าง
ทั้งนี้บริษัทมี Backlog งานก่อสร้างสูง ในช่วงต้นปีสำหรับงานก่อสร้างมีงานในมือที่ 32 พันล้านบาท ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ถึง 3 ปีทีเดียว ซึ่งรวมปีนี้ด้วย ขณะที่ในสัดส่วนราว 35% หรือ 11.2 พันล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมด จะสามารถรับรู้เป็นรายได้ทันในปีนี้ งานในมือ เช่น โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู, โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม, โครงการสะพานข้ามไฮเวย์ไปพัทยา, โครงการระบบป้องกันน้ำท่วมคลองโผงเผงเฟส 3 และโครงการทางเดินใต้ดินที่สนามหลวง
โดยบริษัทมี Backlog ในส่วนอสังหาริมทรัพย์อยู่พอควร ในช่วงต้นปีสำหรับยอดขายรอโอนสำหรับบริษัทย่อยคือ มานะพัฒนาการ ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 99% อยู่ที่ราว 390 ล้านบาท โดยมีอยู่ 2 โครงการ คือ บ้านแนวราบ บารานี พาร์ค ถ.ร่มเกล้า และ คอนโดแอสเพน ลาซาล เฟส C รายการรายได้และกำไรจะจัดทำเป็นงบรวม สำหรับโครงการร่วมทุนของ มานะพัฒนาการ (ถือหุ้น 40%) และ CI (ถือหุ้น 60%) เป็นโครงการ บ้านอิสสระ บางนา-ตราด กม. 8 ซึ่งเป็นบ้านระดับราคาสูง มียอดขายรอโอนอยู่ที่ประมาณ 182 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้จะรับรู้เป็นกำไรตามส่วนได้เสีย