PTTEP เผยงบ H2/58 ส่อเค้าไม่ดีเท่า H1/58 หากบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง
PTTEP เผยงบ H2/58 ส่อเค้าไม่ดีเท่า H1/58 หากบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง
นางเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังคงถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้บริษัทจะต้องบันทึกภาษีสกุลเงินบาทเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากรูปแบบวิธีการยื่นแบบรายการภาษีของไทยยังเป็นรูปสกุลเงินบาท
ทั้งนี้ เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่าทุกๆ 1 บาท จะทำให้บริษัทขาดทุนจากหักภาษี 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากแนวโน้มของค่าเงินบาทยังอ่อนตัวลงอีก มีโอกาสทำให้ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของบริษัทจะไม่ดีเท่ากับครึ่งปีแรก
อย่างไรก็ตามบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ในปีนี้ให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 69-70% จากแผนการควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ เพื่อรองรับราคาน้ำมันที่มีความผันผวนและมีแนวโน้มของราคาลดลง ทั้งนี้มองว่า EBITDA Margin ในครึ่งปีหลังของบริษัทจะอยู่ในระดับ 70% จาก 72% ในครึ่งปีแรก
ด้านบริมาณขายปิโตรเลียมปีนี้คาดว่าจะทำได้ราว อยู่ที่ราว 3.26 แสนบาร์เรล/วัน เติบโตจากปีก่อนประมาณ 1% ซึ่งลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ 3% และมองว่าปริมาณการขายในครึ่งปีหลังคาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่ 3.26 แสนบาร์เรล/วัน ส่วนปริมาณขายในปีหน้ามองว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเพราะจะรับรู้แหล่งแอลจีเรียเต็มปี
สำหรับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในปี 59 บริษัทได้ประเมินไว้ในกรอบ 53-54 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีนี้ที่มองว่าอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งระดับราคาน้ำมันในปี 59 ที่บริษัทคาดการณ์ไว้นั้นเป็นระดับที่ต่ำกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ในกรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในปีหน้าเป็นผลมาจากแนวโน้มของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในตลาดจะเริ่มลดลง ขณะที่แนวโน้มความต้องการใช้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย
นอกจากนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการผลิตปิโตรเลียมในปี 68 ไว้ที่ 6 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งรวมปริมาณการผลิตที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการ (M&A) แต่หากนับเฉพาะความสามารถในการผลิตของบริษัทเองนั้นในปี 68 คาดว่าจะมีการผลิตอยู่ที่ระดับ 4 แสนบาร์เรล/วัน