“7 สมาคมเหล็ก” ร้องนายกฯ ชู 5 แนวทางช่วยผู้ใช้เหล็ก-ย้ำราคาสูงขึ้นตามตลาดโลก!

“7 สมาคมเหล็ก” ร้องนายกฯ ชู 5 แนวทางช่วยผู้ใช้เหล็ก-ย้ำราคาสูงขึ้นตามตลาดโลก!


นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย และผู้ประสานงานกลุ่ม 7 สมาคมเหล็ก เปิดเผยว่า ผู้แทนกลุ่ม 7 สมาคมฯ เหล็ก ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอแนวทางบรรเทาผลกระทบจากราคาสินค้าเหล็กที่จะมีต่อกลุ่มผู้ใช้ หลังจากยืนยันว่าการปรับตัวสูงขึ้นของราคาเหล็กเป็นไปตามต้นทุนที่สูงขึ้นตามทิศทางราคาในตลาดโลก

นายวิกรม วัชระคุปต์ ประธานคลัสเตอร์วัสดุก่อสร้าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า สินค้าวัสดุก่อสร้างที่ใช้สินค้าเหล็กเป็นวัตถุดิบได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาสินค้าเหล็กเช่นกัน แต่ทั้งนี้เป็นสถานการณ์ที่เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการปรับราคาขึ้นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก นอกจากนี้อุตสาหกรรมเหล็กในประเทศยังมีส่วนช่วยชะลอการขึ้นราคาขายในประเทศ เนื่องจากราคาขายเป็นไปตามต้นทุนการผลิตที่สามารถจัดหาได้ ไม่ได้ปรับตามราคาซื้อขายตามราคาตลาดโลกทันที

ข้อเสนอ 5 ข้อ ประกอบด้วย (1) สร้างความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทาน (2) กลุ่มผู้ผลิตในประเทศจะรายงานข้อมูลการผลิต (3) สนับสนุนให้ภาครัฐพิจารณาปรับเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) (4) ขอให้ภาครัฐสนับสนุนให้เกิดการใช้วัตถุดิบในการผลิตสินค้าเหล็กในประเทศ (5) เร่งนำเสนอ และผลักดันนโยบายอุตสาหกรรมเหล็ก 4.0

โดยเชื่อมั่นว่าหากนายกรัฐมนตรีสนับสนุน และมอบนโยบายตามข้อเสนอของ 7 สมาคมฯ เหล็กให้กับภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันทั้งห่วงโซ่การผลิตจะสามารถบรรเทาผลกระทบผู้ใช้สินค้าเหล็กได้

สำหรับการบรรเทาผลกระทบของผู้รับเหมาก่อสร้างงานโครงการภาครัฐเชื่อว่าการปรับค่า K น่าจะเป็นมาตรการเร่งด่วนที่สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ และในอนาคตเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอุตสาหกรรมเหล็กควรจะมีการสร้างความเชื่อมโยง และร่วมมือกันตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตเหมือนหลายประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

นายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยให้ความเห็นต่อแนวทางของกลุ่ม 7 สมาคมฯ เหล็กว่า เป็นแนวทางที่น่าสนใจ และเชื่อว่าหากมีความร่วมมือกันทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนจะสามารถดำเนินการบรรลุตามเป้าประสงค์ได้ นอกจากนี้มาตรการดังกล่าวยังครอบคลุมถึงมาตรการระยะสั้นซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วน เช่น การพิจารณาปรับค่า K หรือแม้แต่การร่วมมือกันระหว่างผู้ใช้ และผู้ผลิตซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ และระยะยาวที่เน้นการสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมเหล็กโดยเฉพาะความพยายามในการวางแผน และนำเสนอการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก 4.0

Back to top button